ทันหุ้น –สู้โควิด –เจาะพื้นฐาน BGRIM เด่น โบรกประสานเสียงเชียร์ คาดการณ์กำไรไตรมาส 2 /2563 ทำนิวไฮแตะ 1 พันล้านบาท รับแรงหนุนจาก High season โซลาร์ เล็งรับรู้ SPP อ่างทองเต็มไตรมาส ขณะที่การเป็นผู้นำเข้า LNG หนุนธุรกิจมีอัพไซด์เปิดกว้าง มองราคาหุ้นมี Upside เพิ่มเกือบ 28% มองเป็นโอกาสสะสมลงทุนระยะยาว ผลงานเติบดตทุกไตรมาสหลังจากนี้ เคาะเป้าหมาย 62 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุถึงบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ  BGRIM ว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2563 เท่ากับ 1 พันล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเติบโตจาก 80.7 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2563 จากการกลับมาเป็นกำไร Fx ที่ 325 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2563 ที่ขาดทุน 886 ล้านบาท หลังค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น

แต่หากพิจารณากำไรปกติคาดลดเล็กน้อย 1% จากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 675 ล้านบาท กดดันจาก COVID ทำให้ลูกค้าอุตฯ (IUs) ใช้ไฟลดลง รวมถึงลดราคาขายไฟให้ IUs 3% แต่ทั้งนี้ได้แรงหนุนจาก High season โซลาร์เวียดนาม, ลูกค้า IUs ใหม่, EGAT ซื้อไฟ SPP มากขึ้น และรับรู้ SPP อ่างทองเต็มไตรมาส จึงทำให้กำไรลดลงไม่มาก

*ส่องพื้นฐานแกร่ง

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยยังคงคาดว่า BGRIM จะเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์จากการนำเข้า LNG มากที่สุดในเวลานี้ และการที่ BGRIM มีขนาดพอร์ตกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ 2,455 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางเมื่อเทียบกับกลุ่มฯทำให้เมื่อลงทุนโครงการใหม่ๆ ขนาดเมกะวัตต์ เดียวกันจะทำให้มี Upside ที่เพิ่มมากกว่า โดยปัจจุบันกำลังศึกษาหลายโครงการซึ่งคาดจะชัดเจนระยะถัดไป

ส่วนทิศทางกำไรครึ่งปีหลังปี 2563 คาดจะเติบโตได้ดีจาก ครึ่งปีแรกปี 2563 จากราคาก๊าซฯที่ลดลง และความต้องการใช้ไฟของ IUs ที่ฟื้นตัว นอกจาก เชื่อราคาหุ้นที่ปรับตัวลงที่ผ่านมา สวนทางกับพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่งทำให้มี Upside เพิ่มเป็นเกือบ 28% จึงมองเป็นโอกาสสะสมลงทุนระยะยาว โดยยังเป็น Top Pick ของกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 62 บาท

*เติบโตทุกไตรมาส

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง BGRIM ว่า คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/2563 ของ BGRIMมีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่ คาดรายได้จากลูกค้าทั้ง IU และ EGAT จะกลับมาใกล้เคียงปกติ และไม่ต้องลดค่าไฟให้ลูกค้า 3% อีกในไตรมาส 2/2563 มีลูกค้า IU รายใหม่เชื่อมเข้าระบบในเดือนพฤษภาคม 14 เมกะวัตต์ และในไตรมาส 3/2563 อีก 8 เมกะวัตต์

นอกจากนี้คาดราคาก๊าซธรรมชาติจะลดลงในอัตราเร่งทั้ง จากไตรมาสก่อนหน้า และจากช่วงเดียกันปีก่อน ตามทิศทางราคาน้ำมันที่ลดลงแรงในช่วงต้นปีจาก COVID-19 คาดเบื้องต้นที่ 235 บาทต่อล้าน BTU+/- ลดลงราว 9.6% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 12.1% จากช่วงเดียกันปีก่อน กลับค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนามเริ่มรับรู้ดอกเบี้ยจ่ายราวครึ่งไตรมาสในไตรมาส 3/2563 และค่า FT ถูกปรับลง 0.83 สตางค์ ทำให้กำไรปกติไตรมาส 3/2563 มีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่ได้

ทั้งนี้คาดว่ากำไรของ BGRIM จะยังเติบโต จากช่วงเดียวกันปีก่อนต่อในไตรมาส 4/2563 และอาจเติบโตทุกไตรมาสได้ในปี 2564 จากกำลังการผลิตใหม่และต้นทุนก๊าซธรรมชาติทรงตัวต่ำ ขณะที่มีโครงการ SPP ใหม่อยู่ระหว่างเจรจาอีก 2-3 แห่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ราคาหุ้นย่อตัวลงมาตามภาวะตลาด, การขาย Big lot ของ ADB และการเพิ่มทุนของ GULF กระทบจิตวิทยา แต่ BGRIM ยังยืนยันไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน การย่อตัวจึงเป็นโอกาสในการลงทุน คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 60.00 บาท