ทันหุ้น – สู้โควิด – THAI มั่นใจ 80% เจ้าหนี้ไฟเขียวให้เป็นผู้จัดทำ-บริหารแผนฟื้นฟูองค์กร ย้ำทุกรายชื่อล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญมีความสามารถ คาดศาลใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ในการพิจารณา ลั่นขอ 3-5 ปี THAI กลับมาผงาดได้อย่างภาคภูมิ แจงยังมีสภาพคล่องจากการบินเช่าเหมาลำเป็นหลัก

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการบริษัทฯ และรักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ระบุ บริษัทเตรียมเสนอรายชื่อผู้จัดทำแผนฟื้นฟูองค์กร ต่อศาลล้มละลายกลาง ประกอบด้วย 1.พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน, 2.นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์, 3. นายบุญทักษ์ หวังเจริญ, 4.นางพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และ 5.นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ในวันที่ 17 สิงหาคม 2563 ที่จะถึง

ควบคู่กับการเร่งทำความเข้าใจกับกลุ่มเจ้าหนี้ทั้งใน-ต่างประเทศ รวมถึงผู้ถือหุ้นกู้ขององค์กร เพื่อให้สนับสนุนให้ THAI เป็นผู้จัดทำแผนฟื้นฟู และบริหารแผนฯ โดยคาดว่า เจ้าหนี้ทั้งต่างประเทศและในประเทศส่วนใหญ่ราว 70-80% ของจำนวนรายเจ้าหนี้ จะเห็นด้วยกับการที่บริษัทจะจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ

“จากการเดินสายให้ข้อมูลเจ้าหนื้ทั้งธนาคาร เจ้าหนี้ต่างชาติ และผู้ถือหุ้นกู้รายย่อย เพื่อสร้างความเข้าใจและให้การสนับสนุนการฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ซึ่งการเจรจาเป็นไปในทางที่ดีจึงมีความมั่นใจว่ากลุ่มเจ้าหนี้จะให้การสนับสนุนให้การบินไทยเป็นผู้จัดทำแผน และฟื้นฟูกิจการ เพราะทุกท่านที่ปรากฏล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญในสาขาที่ตนทำอยู่ ซึ่งจะสามารถผสมผสานกันพลิกฟื้นการบินไทยให้กลับมาแข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน”

นายชาญศิลป์ ระบุ กรณีที่ลูกหนี้เป็นผู้ยื่นเสนอตัวเป็นผู้จัดทำแผนฟื้นฟูฯ ต้องการกลุ่มเจ้าหนี้ให้การสนับสนุนในสัดส่วนเพียง 1 ใน 3 ของมูลหนี้ทั้งหมด ขณะที่กรณีที่เจ้าหนี้จะขอเสนอเป็นผู้จัดทำแผนฟื้นฟูฯ จะต้องมีเสียงสนับสนุนจากเจ้าหนี้ถึง 2 ใน 3 ส่วนของมูลหนี้ทั้งหมด

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าศาลจะใช้ระยะเวลาการพิจารณา 1-2 สัปดาห์ ก่อนจะมีมติทางใดทางหนึ่ง ซึ่งหากมีมติให้ THAI เป็นผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ ก็จะลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นทาง THAI จะเปิดช่องทางต่างๆ ให้กลุ่มเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้กับทางองค์กร โดย THAI จะเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้ได้มากที่สุด

นายชาญศิลป์ ระบุว่า หลังจากเริ่มดำเนินการตามแผนฟื้นฟูแล้ว จะใช้ระยะเวลา 3-5 ปีในการพลิกฟื้น THAI ให้กลับมามีศักยภาพการทำกำไรอีกครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก, การคิดค้นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้, ความมั่นใจในการเดินทางของประชากร เป็นองค์ประกอบ โดย THAI จะใช้ศักยภาพทั้งหมดในการจัดหารายได้ตามสภาวะการ

“ตอนนี้สิ่งสำคัญคือเร่งรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด ทั้งคำขอฟื้นฟูกิจการ แนวทางการฟื้นฟู รายชื่อผู้จัดทำและบริหารแผน ซึ่งจากการเดินสายชี้แจงเจ้าหนี้รายใหญ่ทั้งหมด ค่อนข้างมั่นใจว่าเจ้าหนี้จะให้การสนับสนุนให้บริษัทเป็นผู้จัดทำแผนฯ”

ยังเร่งหารายได้

พร้อมกันนี้ยืนยันว่าองค์กรมีสภาพคล่องระดับหนึ่ง จากการหารายได้ 1.การเปิดเที่ยวบินพิเศษรับคนไทยในต่างประเทศกลับประเทศไทย อาทิ สุวรรณภูมิ-ลอนดอน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, สุวรรณภูมิ-แฟรงก์เฟิร์ต 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, สุวรรณภูมิ-ซิดนี่ 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และอยู่ระหว่างการวางแผนเปิดเส้นทางบินไปยังเมืองเฉินตู จีน, และนาริตะ ญี่ปุ่นอีกด้วย

ซึ่งการบินต่อหนึ่งไฟล์ทนั้น ยังเน้นการขนส่งผู้โดยสาร “ขาเดียว” เป็นหลัก โดยจะเพิ่มการขนส่งสินค้า และผู้โดยสารขากลับเป็นบางไฟล์ท ขณะเดียวกัน THAI ได้เน้นการขนส่งสินค้ามากขึ้นโดยเฉพาะประเทศฮ่องกง ซึ่งมีเที่ยวบินไป-กลับทุกวัน