> SET > CK

06 สิงหาคม 2020 เวลา 16:58 น.

CK เดินหน้าประมูลโครงการใหม่ครึ่งปีหลัง, ตั้งเป้ารายได้ 2 หมื่นลบ.

ทันหุ้น-สู้โควิด : CK เตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังปี 2563 ในการประมูลโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะกลับมาเริ่มประมูลตามแผนอีกครั้งหลังจากวิกฤตโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย มั่นใจในจุดแข็งที่โดดเด่นทั้งจากศักยภาพการผนึกกำลังของบริษัทในเครือพร้อมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอันยาวนานด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีการก่อสร้างระดับสูงในเมกะโปรเจกต์ที่หลากหลาย ตลอดจนแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan: BCP) ที่ชัดเจนและพร้อมปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อการดำเนินธุรกิจในรูปแบบที่เปลี่ยนไปสู่ New Normal อย่างไม่สะดุด โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2563 ที่ 20,000 ล้านบาท


นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่า สำหรับในปี 2563 บริษัทฯ ยังคงมุ่งไปที่การพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ตามโมเดลธุรกิจแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Public Private Partnership: PPP) ซึ่งสามารถดำเนินการได้รวดเร็ว คล่องตัว และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ โดยอาศัยความแข็งแกร่งของกลุ่ม CK ซึ่งเป็นการผนึกกำลังของบริษัทต่างๆ ในเครือทั้ง บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW และ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ CKP 


โดยการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานมาต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลให้บริษัทได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ไม่มากนัก และยังสามารถสร้างกระแสรายได้อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง มั่นใจในความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลงานโครงการสาธารณูปโภคใหม่ต่างๆ ของภาครัฐทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่คาดว่าจะกลับมาเดินหน้าตามแผนในช่วงครึ่งปีหลังเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยสู่ New Normal


นางสาวสุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ณ สิ้นปี 2562 บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 38,515 ล้านบาท มีผลงานความสำเร็จที่สำคัญและเป็นความภาคภูมิใจของบริษัท คือ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ซึ่งก่อสร้างเสร็จสิ้นส่งมอบและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนตุลาคม 62 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายระยะที่ 2 (สถานีหัวลำโพง – สถานีหลักสอง) ซึ่งได้ทะยอยเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่กันยายน 62 และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ครบทั้งสายในเดือนมีนาคม 63 ที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 2 โครงการเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีความท้าทายด้านวิศวกรรม แต่บริษัทสามารถส่งมอบงานคุณภาพได้ตามแผนงานและภายใต้งบประมาณ


ในปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 24,797 ล้านบาท กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 1,778 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ร้อยละ 8.61%


สำหรับสถานการณ์โควิด-19 บริษัทไม่ได้รับผลกระทบทางตรงใดๆ ต่อรายได้ก่อสร้างและได้รับผลกระทบทางอ้อมเล็กน้อยจากการลงทุนเท่านั้น เนื่องจากเรามีแผนบริหารความเสี่ยงและแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ Business Continuity Plan (BCP) ที่ชัดเจน สำหรับการดำเนินธุรกิจทั้งในโครงการก่อสร้างและสำนักงานใหญ่ พร้อมแนวปฏิบัติในการดูแลความปลอดภัยสุขอนามัยอย่างเต็มที่ 


กลยุทธ์การมุ่งลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานหลากหลาย ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบ ด้านรายได้น้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น ส่วนการดำเนินธุรกิจในอนาคตและแผนการประมูลงานของเราก็ไม่ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 63 นี้โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งเป็นกลจักรหลักในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจะมีการทยอยเปิดประมูลออกมาตามแผน จึงพร้อมเดินหน้าสนับสนุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐเพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยไปสู่ New Normal 


โดยโครงการที่เราให้ความสำคัญ คือ รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก มูลค่ากว่า 120,000 ล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีม่วงด้านใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มูลค่า 77,000 ล้านบาท และโครงการรถไฟทางคู่ที่ผ่าน EIA แล้ว 3โครงการรวมมูลค่ากว่า 180,000 ล้านบาทสำหรับในต่างประเทศ ขณะนี้ CKP อยู่ระหว่างเจรจาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งใหม่ในลาว มูลค่าใกล้เคียงกับไซยะบุรี มั่นใจว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2563 ไว้ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท


สำหรับโครงการต่างๆที่กำลังดำเนินการ มีความคืบหน้าตามแผนที่วางไว้ โดย ณ เดือนธันวาคม 2563 มีรายละเอียด ดังนี้

° โครงการมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน – นครราชสีมาสัญญาที่ 3 ความคืบหน้าร้อยละ 84

° โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี) สัญญาที่ 1 ความคืบหน้าร้อยละ 44.80, สัญญาที่ 2 ความคืบหน้าร้อยละ 36.70 และสัญญาที่ 5 ความคืบหน้าร้อยละ 48.20

° โครงการทางพิเศษพระราม 3 – ดาวคะนองสัญญาที่ 4 สะพานขึงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาความคืบหน้าร้อยละ 0.1


ขณะเดียวกันบริษัทยังมุ่งสนับสนุนการดำเนินโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างครอบคลุมรอบด้าน ในทุกมิติเริ่มจากการเลือกโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศการดูแลสิ่งแวดล้อมชุมชน และสังคมเพื่อลดผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจรวมถึงการบริหารตามหลักธรรมมาภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน 


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X