> เคล็ดลับลงทุน > SCC

09 สิงหาคม 2020 เวลา 13:45 น.

เปิดแนวคิด “รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส” ปรับกลยุทธ์ SCC พลิกเกมรบฝ่าวิกฤตโควิด-19

ทันหุ้น-สู้โควิด : วิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบรวดเร็วและรุนแรง ทำให้ภาคธุรกิจทั้งขนาดเล็กและใหญ่ต้องดิ้นรนปรับตัวฝ่าความท้าทาย เพื่อให้อยู่รอดและสามารถกลับมายืนได้อย่างแข็งแกร่ง นับเป็นอีกหนึ่งพายุลูกใหญ่ที่ท้าทายองค์กรขนาดใหญ่อย่างเอสซีจี แต่ผู้นำองค์กร “รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส” กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ได้นำทัพพนักงานกว่า 50,000 คน ก้าวข้ามวิกฤตด้วยการปรับตัวให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ จนทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2563 ของเอสซีจีมีผลกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแม้ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก


“ในช่วงที่ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แม้เอสซีจีจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น ธุรกิจท่องเที่ยวและสายการบิน แต่บริษัทได้ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเหตุการณ์มีความไม่แน่นอนสูง เพื่อให้สามารถปรับตัวและเตรียมแผนการรองรับได้ทันท่วงที สำหรับประเทศไทยโอกาสฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วไม่ง่ายนัก หลายภาคส่วนผ่านจุดที่แย่ที่สุดมาแล้ว แต่สถานการณ์นี้ยังไม่จบ จึงถึงจุดที่ต้องมาวางแผน แต่แผนนั้นจะได้ทำจริงหรือต้องปรับเปลี่ยน ก็ต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในขณะที่หลายคนกังวลว่าจะมีการระบาดซ้ำรอบที่ 2 หรือไม่ ซึ่งหากเกิดขึ้นก็จะมีผลกระทบรุนแรงและยาวนานมากขึ้น หลายประเทศจึงกลับมาดูเรื่องกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะช่วยให้ประเทศก้าวต่อไปได้” รุ่งโรจน์กล่าว

คุมเข้มมาตรการบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ พร้อม “รับ-รุก” ทุกสถานการณ์ 


“การจัดวางสมดุลระหว่างความเป็นอยู่ของคนกับภาคธุรกิจ” คือวิธีคิดการบริหารธุรกิจภายใต้แรงกดดันในภาวะวิกฤตของแม่ทัพใหญ่ โดยมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจให้สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Management-BCM) รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ พร้อมกับแสวงหาโอกาสจากความต้องการใหม่ๆ ในตลาดหลังจากที่ผู้บริโภคเริ่มมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทั้งการสั่งอาหารและซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ รวมถึงความใส่ใจดูแลสุขอนามัยที่เพิ่มขึ้น

“วิกฤต 3 เดือนที่ผ่านมากระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคน รวมทั้งภาคเศรษฐกิจทั้งโลกแทบหยุดชะงัก เอสซีจีได้เตรียมพร้อมรับมือหากสถานการณ์เลวร้ายที่สุด(Prepare for the Worst) เช่น การเตรียมการขายและการขนส่งล่วงหน้า หากมีการปิดเมือง และวางแผนหาโอกาสทางธุรกิจที่เข้ามาได้ทุกเมื่อ (Plan for The Best) เช่น การปรับกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น


ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation)มาใช้ ซึ่งในส่วนนี้ เอสซีจีได้ปรับและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ มาแล้วอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้สามารถพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชันที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทันท่วงที และทำให้เราตระหนักว่า ความพยายามในการทำดิจิทัลทรานสฟอร์มเมชันของเอสซีจีมาถูกทาง และยิ่งต้องทำต่อให้เร็วและเข้มข้นมากขึ้น”


ปรับกลยุทธ์ 3 กลุ่มธุรกิจ รับความท้าทายยุค New Normal


ในช่วงวิกฤตโควิด-19 มีการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและการสั่งอาหารออนไลน์เพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น ธุรกิจแพคเกจจิ้ง ถือเป็นธุรกิจที่มีโดดเด่นและมีโอกาส 

เอสซีจีจึงสร้างโอกาสเติบโตด้วยการขยายธุรกิจด้วยและการควบรวมกิจการ (Merger & Partnership) ร่วมกับ PT Fajar Surya WisesaTbk. ผู้นำธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ในอินโดนีเซีย และ Visy Packaging (Thailand) Limited รวมถึงการวางแผนการลงทุนขนาดใหญ่ในBien Hoa Packaging Joint Stock Companyหรือ SOVI ในเวียดนาม ซึ่งเป็นกลยุทธ์เพื่อสร้างฐานให้แข็งแกร่งรองรับการเติบโตครอบคลุมทั้งภูมิภาคอาเซียน


ในขณะที่อีกหลายธุรกิจต้องดำเนินงานด้วยความท้าทายท่ามกลางสภาวะตลาดที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ธุรกิจเคมิคอลส์ ได้พลิก “วิกฤตเป็นโอกาส” ด้วยการดูแลความปลอดภัยให้แก่ทั้งพนักงานและลูกค้า ตลอดจนการควบคุมคุณภาพและความสะอาดของวัตถุดิบและสินค้า

ขณะเดียวกัน ก็บริหารจัดการสินค้าให้มีความยืดหยุ่น จึงทำให้สามารถเดินหน้าการผลิตได้อย่างเต็มที่ และตอบสนองกับความต้องการของตลาดที่ต้องการสินค้าเคมีภัณฑ์สำหรับการผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลนทั่วโลกได้อย่างทันต่อสถานการณ์ ในขณะที่ความต้องการสินค้าเคมีภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ลดลง

สำหรับธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ที่แม้ต้องเผชิญกับภาวะที่อสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว แต่เอสซีจีได้ปรับรูปแบบการนำเสนอสินค้า บริการและโซลูชัน ด้วยการเชื่อมต่อช่องทางออนไลน์ SCGHOME.COM กับเครือข่ายร้านค้าของ SCG HOME ทั่วประเทศในรูปแบบ Active Omni-channel เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้สามารถสอบถาม ขอรับคำปรึกษา และเลือกซื้อสินค้าได้ทุกช่องทาง 

รวมทั้งนำเสนอแพลทฟอร์มเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าเจ้าของบ้าน ทำให้การสร้างบ้านไม่สะดุดแม้ในช่วงโควิด-19 อีกทั้งเอสซีจียังได้เข้าไปเชื่อมต่อการบริการโซลูชันงานโครงสร้างให้ผู้ประกอบการอสังหาฯรายย่อย (SMEs) ภายใต้บริการ “CPAC Smart Structure” ช่วยลูกค้าลดต้นทุนการก่อสร้างทั้งยังเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


รุ่งโรจน์ เพิ่มเติมว่า “สิ่งสำคัญคือ ต้องวิเคราะห์ว่า ธุรกิจของเรามาถึงจุดไหน ผลกระทบที่เกิดกับเราต่างจากคนอื่นอย่างไร คู่แข่งเป็นอย่างไร ผลกระทบกับอุตสาหกรรมเป็นอย่างไร ซึ่งการตอบสนองของแต่ละองค์กรไม่เหมือนกัน หากเปรียบวิกฤตก็เหมือนกับพายุ เมื่อเจอพายุ เราต่างอยู่บนเรือคนละลำ อยู่กันคนละกลุ่มอุตสาหกรรม จะเอาแนวปฏิบัติหนึ่งไปแก้ปัญหาอีกสิ่งหนึ่งไม่ได้ จึงต้องหาโซลูชันของตัวเอง ต้องมีการวางแผนเรื่องเวลาและการลงมือปฏิบัติให้รวดเร็วทันต่อสถานการณ์”


อีกบทพิสูจน์หนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการนำพาองค์กรปรับตัวฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ได้ คือ การที่เอสซีจีได้เร่งพัฒนานวัตกรรมป้องกันโควิด-19 จำนวน 31 นวัตกรรม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ได้เป็นอย่างดี โดยได้เชื่อมโยง 125 เครือข่ายให้เป็นผู้สนับสนุนและกระจายความช่วยเหลือไปยัง 847 โรงพยาบาลและหน่วยงานทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็วทันต่อความต้องการของสังคมในช่วงที่สถานการณ์กำลังวิกฤต

“น้ำ” พื้นฐานสำคัญช่วยโครงสร้างเศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง 


รุ่งโรจน์เสริมต่อว่า น้ำ เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะเดียวกัน น้ำ ก็ถือเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศที่ส่งผลกระทบทั้งภาคประชาชน สังคม รวมถึงภาคธุรกิจซึ่งประเทศไทยประสบทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง 

ความท้าทายคือการลงทุนบริหารจัดการเรื่องน้ำตั้งแต่ต้นทาง โดยขอเร่งให้ภาครัฐมีมาตรการบริหารจัดการน้ำของประเทศอย่างจริงจังใน 3 มิติ ทั้งการเก็บน้ำ การจัดหาและกระจายการใช้น้ำอย่างทั่วถึง ตลอดจนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการสร้างการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาและรองรับกับปัญหาในอนาคต


กุญแจสำคัญของการเอาชนะวิกฤตขององค์กรกว่าร้อยปีแห่งนี้ ที่ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับพายุอันเลวร้ายเพียงใดคือ ความพร้อมปรับตัวให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งวางแผนบริหารจัดการความต่อเนื่องของธุรกิจ เพื่อให้สามารถฝ่าฟันความท้าทายให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เพื่อรักษาเสถียรภาพของธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสในการต่อยอดสู่ธุรกิจควบคู่กับการมีบทบาทในการดูแลและช่วยเหลือสังคม เพื่อให้สังคมและองค์กรสามารถอยู่รอดและเติบโตไปพร้อมกันได้อย่างยั่งยืน 


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X