> Trendtalk > SCC

10 สิงหาคม 2020 เวลา 06:10 น.

SCC

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1320 จุด หลังจากปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1340 จุด ทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1300 จุด และมีเป้าหมายในการปรับตัวลดลงไปที่ 1270 จุด

ส่วนหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ SCC หรือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) ดำเนินธุรกิจการลงทุน (Holding company) ใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ธุรกิจเคมิคอลส์ และธุรกิจแพคเกจจิ้ง


ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 9,383 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 7.82 บาท กำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มีกำไรสุทธิ 7,043 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 5.87 บาท


ส่วนผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 16,355 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 13.63 บาท กำไรลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มีกำไรสุทธิ 18,705 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 15.59 บาท


นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การเงินและการลงทุน บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) หรือเอสซีจี เปิดเผยว่า เอสซีจีมีแผนที่จะใช้เงินลงทุนมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากในช่วงครึ่งแรกของปีใช้เงินลงทุนไปเพียง 2.2 หมื่นล้านบาท หลังจากที่เผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 โดยทั้งปีนี้ยังคงเป้าหมายการลงทุนที่ระดับ 5.5-6.5 หมื่นล้านบาทตามแผนงานเดิม ซึ่งส่วนใหญ่ประมาณ 50% จะเป็นการใช้เพื่อก่อสร้างโครงการปิโตรเคมีที่เวียดนามที่ปัจจุบันมีความคืบหน้าแล้วกว่า 45%

ส่วนโอกาสและการขยายธุรกิจของเอสซีจี หลังจากนี้ยังคงมีการลงทุนที่มีเป้าหมายชัดเจนตามแผน เช่น การลงในธุรกิจในเวียดนาม ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการ และยังคงมีการเลือกลงทุนซื้อกิจการ (M&A) ด้วยความระมัดระวัง ไตรมาส 2 มีเงินสด 8.8 หมื่นล้านบาท ครึ่งปีหลังจะมีเงินลงทุนมากขึ้น Cash ยังค่อนข้างสูง เนื่องจากเราเตรียมรับ Full Impact ในช่วงผ่านมา แต่คิดว่ากำลังบริหารจัดการอยู่ ซึ่งในแง่หุ้นกู้ที่จะครบอายุปลายปี ก็มีแผนจะออกทดแทน


ด้านนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ SCC กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้นับว่ายังมีความท้าทายอยู่มาก เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่สิ้นสุดและคงมีผลกระทบต่อเนื่อง แม้ในไทยจะสามารถบริหารจัดการได้ดี แต่ประเทศอื่นๆ ยังคงต้องเฝ้าระวัง


โดยในส่วนของธุรกิจวัสดุก่อสร้างแม้มีโอกาสฟื้นตัว โดยเฉพาะโครงการภาครัฐที่น่าจะยังคงมีความต่อเนื่อง ส่วนตลาดซีเมนต์ที่หดตัวราว 1% ในช่วงครึ่งปีแรก ในช่วงครึ่งปีหลังก็ยังมีความท้าทายสูง โดยตลาดที่อยู่อาศัยยังมีแนวโน้มค่อนข้างเหนื่อยและอาจมีข้อจำกัดในบางตลาด ส่วนตลาดเพื่อการพาณิชย์อาจยังไม่ฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ด้านตลาดภาครัฐน่าจะยังมีความต่อเนื่องจากการซ่อมแซมสาธารณูปโภค ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้าง


สำหรับธุรกิจเคมิคอลส์ ยังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่ผันผวนและท้าทาย ยังต้องติดตามใน 2 ประเด็นหลักคือด้านต้นทุนสินค้า และความต้องการของตลาด ซึ่งธุรกิจนี้ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงมาก อย่างไรก็ตามเอสซีจียังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงให้มีสัดส่วนสูงขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในช่วงตลาดฟื้นตัวให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด


ขณะที่ธุรกิจแพ็คเกจจิ้ง มองว่าการอุปโภคบริโภคที่ยังมีแนวโน้มไปได้ดี แต่ยังมีความกังวลด้านการส่งออก ส่วนความคืบหน้าการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของบมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ล่าสุดคำขอได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ภายนอกต่าง ๆ เช่น แนวโน้มเศรษฐกิจ ภาวะตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน


SCC มีราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus อยู่ที่ 390 บาท โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 450 บาท และมีราคาเป้าหมายต่ำสุดที่ 290 บาท

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 370 ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 400 และ 420 แต่ถ้าราคาหุ้นปรับตัวลดลงหลุดระดับ 370 ลงไป จะมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 355-356


สนใจบทความย้อนหลัง และเรื่องราวที่น่าสนใจ สามารถหาดูได้ในเพจ Trendtalk

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X