> SET > PTTGC

10 สิงหาคม 2020 เวลา 08:30 น.

PTTGCไตรมาส2พลิกกำไร ขาดทุนสต๊อกลด-กำไรFX

ทันหุ้น –สู้โควิด –PTTGC อวดงบไตรมาส 2/2563 พลิกมีกำไร 1.67 พันล้านบาท โต 119% จากไตรมาสก่อนที่ขาดทุน 8.78 พันล้านบาท หลังขาดทุนสต๊อกน้ำมันลดลง และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่มีรายได้จากการขายรวม 6.92 หมื่นล้านบาท ด้านโบรกคาดครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัว อย่างค่อยเป็นค่อยไป แนะซื้อเป้า 58 บาท


นางสาวดวงกมล เศรษฐธนัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,671 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119% จากไตรมาสก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 8,784 ล้านบาท แต่ลดลง 24% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 2,202 ล้านบาท มีรายได้จากการขายรวม 69,271 ล้านบาท ลดลง 26% จากไตรมาสก่อน และลดลง 35% จากช่วงเดียวกันปีก่อน


ขณะที่มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,409 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาสก่อนที่ 1,128 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทรับรู้ผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันและการกลับรายการมูลค่าสุทธิที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (Stock Loss Net Reversal of NRV) เป็นผลขาดทุนรวม 899 ล้านบาท รวมทั้งผลขาดทุนตราสารอนุพันธ์ 340 ล้านบาท แต่จากการแข็งค่าของค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่องตลอดไตรมาส จึงส่งผลให้มีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 1,501 ล้านบาท


*ลดผลิตน้ำมันอากาศยาน


ทั้งนี้ในไตรมาส 2/2563 มีการใช้กำลังการผลิตเต็มกำลังการผลิตในทุกหน่วยธุรกิจหลัก โดยเฉพาะธุรกิจโอเลฟินส์และโพลิเมอร์ได้กลับมาดำเนินการผลิตได้เต็มที่ หลังจากการปิดซ่อมบำรุงตามแผนในไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ปริมาณการขายปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ แต่ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปรับตัวลงจากการชะลอตัวของอุปสงค์โลก โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยานและน้ำมันแก๊สโซลีน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ปรับลง


ดังนั้นบริษัทจึงได้ปรับรูปแบบการผลิต โดยลดปริมาณการผลิตน้ำมันอากาศยาน และเปลี่ยนไปผลิตเป็นน้ำมันดีเซล ตามภาวะตวามต้องการน้ำมันอากาศยานที่ลดลง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น


*ราคาน้ำมันเฉลี่ย42-45 ดอลลาร์


สำหรับแนวโน้มตลาดน้ำมันในครึ่งปีหลังคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 42-45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม คาดว่าสถานการณ์ราคาและส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ยังคงได้รับปัจจัยกดดันจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันต่างๆ โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยาน และน้ำมันแก๊สโซลีนลดลง บริษัทจึงได้ปรับลดการผลิต และผลิตน้ำมันดีเซลที่ยังมีความต้องการที่ดีอยู่ทดแทนคาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตทั้งปีได้เต็มกำลังที่ 101%


ในปีนี้บริษัทมีแผนการปิดซ่อมบำรุง เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของหน่วยผลิตอะโรเมติกส์ 2 ในไตรมาสที่ 3 คาดการณ์ใช้กำลังการผลิตของปีนี้อยู่ที่ 92%


ส่วนผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง ในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มทรงตัวจากครึ่งปีแรก ในส่วนของบริษัทคาดว่าในปีนี้การใช้กำลังการผลิตโอเลฟินส์จะอยู่ที่ 97% จากการปิดซ่อมบำรุงที่แล้วเสร็จไปในไตรมาส 1/2563 และคาดการณ์การใช้กำลังการผลิตของธุรกิจโพลิเมอร์อยู่ที่ 101%


*ธุรกิจหลักเริ่มฟื้นตัว


บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียเวลท์ จำกัด ระบุถึง PTTGC ว่า ธุรกิจหลักเริ่มกลับมาฟื้นตัว โดยปัจจุบันราคา HDPE ในช่วงไตรมาส 3/2563 อยู่ที่ 890 ดอลลาร์ต่อตัน เพิ่มขึ้น 17.1% จากไตรมาสก่อน ขณะที่ส่วนต่างราคา HDPE ทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 500 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบเริ่มลดลง ทำให้ อย่างไรก็ตามความเสี่ยงต่อประมาณการผลประกอบการปี 2563 ยังคงมีอยู่จาก การฟื้นตัวของค่าการกลั่นที่ล่าช้ากว่าคาด และความไม่แน่นอนของสถานการณ์ COVID-19


 มีมุมมองเป็นบวกต่อ 1.แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลัง 2563 และ 2.ความเป็นไปได้ที่โครงการ Ethane Cracker (Ohio) ในสหรัฐฯ เลื่อนการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (Final investment decision: FID) ออกไปอีกอย่างน้อย 2 ปี หลัง Daelim Chemical USA ถอนตัวจากการลงทุนในโครงการดังกล่าว ทำให้เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 58 บาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X