> SET > RS

10 สิงหาคม 2020 เวลา 10:20 น.

RS กำไรพุ่งสวนกระแส,โบรกคาดโตต่อเนื่อง เคาะพื้นฐาน 20.10 บ.

ทันหุ้น-สู้โควิด : บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป กลับทำรายได้โตแรงสวนกระแส จากผลประกอบการไตรมาส2 ปี 2563 ที่สามารถทำยอดขายนิวไฮจากธุรกิจคอมเมิร์ซถึง 586.2 ล้านบาท หรือ เติบโตกว่า17% จากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมาจากปัจจัยหลักที่สำคัญ คือการขับเคลื่อนธุรกิจผ่านโมเดล Entertainmerce ที่ชัดเจน และการบริหารต้นทุนของธุรกิจคอมเมิร์ซและธุรกิจสื่ออย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ สูงถึง53% 


พร้อมเผยแผนครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดตัว Star Commerce และขยายสินค้าเข้าสู่ตลาดแมสเพื่อดันยอดขายให้โตก้าวกระโดดอีกครั้ง ฟากโบรกแนะนำ "เก็งกำไร" คงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ RS ที่เติบโตดีกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มทีวีดิจิทัลรายอื่นๆ ประเมินพื้นฐานปี 2564 ที่ 20.10 บาท


นายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ปี 2563จะได้รับผลกระทบทั้งไตรมาสจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ที่ต่อเนื่องมาจากปลายไตรมาสแรกแต่ อาร์เอส กรุ๊ป กลับสร้างผลงานโดดเด่น จากความสำเร็จในการใช้โมเดลธุรกิจ Entertainmerceและการปรับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจได้รวดเร็วสอดคล้องกับสถานการณ์ ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจคอมเมิร์ซในไตรมาส2 ของปี 2563สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจมากถึง 586.2ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และกว่า17% จากไตรมาสก่อนหน้าโดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 108.6 ล้านบาท


ทั้งนี้ รายได้ของธุรกิจคอมเมิร์ซ มาจากการขายสินค้าผ่าน RS Mall แพลตฟอร์มที่จำหน่ายสินค้าในหลากหลายช่องทาง ทั้งสินค้าของบริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ และสินค้าจากพันธมิตรผ่านช่องทางออนแอร์ ทั้งช่อง 8 และช่องพันธมิตรผู้นำทีวีดิจิทัลรายอื่นๆ วิทยุ และสื่อออนไลน์ รวมไปถึงการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ 


อย่างไรก็ตาม จากความสำเร็จของการขยายช่องทางการขาย ส่งผลให้ปัจจุบัน RS Mall มีฐานข้อมูลลูกค้า 1.4 ล้านราย บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นการบริหารข้อมูลลูกค้าเป็นสำคัญ ทั้งการนำระบบ Predictive Dialing System (PDS) เข้ามาพัฒนาระบบเทเลเซลล์ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น 


การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มุ่งดูแลสุขภาพ และโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดแคมเปญ “RS Mall Mid Year Super Sale” ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้รายได้ทั้งจากกลุ่มลูกค้าใหม่และกลุ่มลูกค้าเดิมเติบโตเพิ่มขึ้น โดยโปรดักส์แชมป์เปี้ยนที่ทำรายได้สูงสุด ได้แก่ เอส.โอ.เอ็ม. คอร์ดี้ ทิเบต แอนด์ ภูฏาน, เอส.โอ.เอ็ม. ไอ-แคร์ และ เอส.โอ.เอ็ม. ซีแมคซ์ซึ่งทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ เป็นสินค้าในกลุ่มดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพสูงและตอบโจทย์สถานการณ์ในปัจจุบัน”


ด้านนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อาร์เอส กรุ๊ป มุ่งดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Entertainmerceและเข้าสู่ธุรกิจคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกแพลตฟอร์ม ทั้งสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และออนไลน์ ผ่าน RS Mall และ COOLanythingโดยในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เน้นการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุก ซึ่งประกอบไปด้วย


1) การพัฒนาช่องทางออนไลน์ให้เข้าถึงและตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง จากการพัฒนาแอพพลิเคชัน และเว็บไซต์ COOLISM ที่มีจำนวนผู้ฟังกว่า 2ล้านรายต่อเดือน รวมถึงการพัฒนาและทำการตลาดผ่านเว็บไซต์RS Mall ที่มีผู้ใช้งานกว่า 4 แสนรายด้วย


2) วางแผนนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบใหม่ที่ผสานเข้าไปกับเนื้อหารายการ ผ่านทางช่อง 8 อย่างเต็มรูปแบบ


3) เพิ่มความหลากหลายของประเภทผลิตภัณฑ์ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทไลฟ์สตาร์ ที่เจาะเข้าสู่แมสมาร์เก็ตอาทิผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม Functional RTD (Ready-to-drink)และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่คิดค้นร่วมกับศิลปินดาราชื่อดัง เพื่อตอบโจทย์กลุ่มแฟนคลับ หรือเรียกว่า สตาร์ คอมเมิร์ซ


นอกจากที่กล่าวไปข้างต้นแล้วอาร์เอส กรุ๊ป กำลังเร่งสปีดเพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจคอมเมิร์ซแบบก้าวกระโดด โดยจะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเปิดเผยความก้าวหน้าในด้านการดำเนินงานของแต่ละธุรกิจในเครือตลอดช่วงครึ่งปีหลังอีกด้วย”


อาร์เอส กรุ๊ป เชื่อมั่นว่าพลังของสื่อ และการทำงานอย่างสร้างสรรค์ในคอนเซปต์ Storytelling Commerce ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญและจุดแข็งของบริษัทฯ จะสามารถสร้างปรากฎการณ์ใหม่ในด้านยอดขายทั้งในหมวดสินค้าที่มีFunctional Benefitsและ Emotional Valueสูงได้เป็นอย่างดีซึ่งจะส่งผลให้รายได้ธุรกิจคอมเมิร์ซเติบโตทำนิวไฮได้อย่างต่อเนื่อง


**ด้าน บล.หยวนต้า ส่อง RS ระบุรายงานกำไรปกติใน 2Q63 ที่ 109 ล้านบาท (-37%QoQ แต่ +14%YoY)  สูงกว่าประมาณการของเรา 20% จากประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดีกว่าคาด โดยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่  52.7% สูงกว่าประมาณการของเราที่ 44.9%


รายได้รวมปรับลดลง 15%QoQ และ 8%YoY เหลือ 833 ล้านบาท  สาเหตุหลักจากธุรกิจสื่อทีวีดิจิทัลที่ได้รับผลกระทบเต็มไตรมาสจาก COVID-19 ซึ่งเม็ดเงินโฆษณาของอุตสาหกรรมใน 2Q63 ติดลบราว 35%YoY ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจสื่อปรับลดลง 41%QoQ และ16%YoY เหลือ 221 ล้านบาท  


อย่างไรก็ตามสำหรับธุรกิจขายสินค้าหรือ  RS Mall รายได้ยังเติบโตต่อเนื่อง 17%QoQ และ 8%YoY เป็น 586 ล้านบาท  ซึ่งทำสถิติยอดขายสูงสุด จากการเพิ่มช่องทางขายสินค้า ซึ่งจะมีการขายสินค้าทั้งช่องตัวเอง ช่องดาวเทียม  โดยเฉพาะจากการขายผ่านช่องทาง Outbound ซึ่งช่วง COVID-19 สินค้าในกลุ่มอาหารเสริมสุขภาพ ยอดขายค่อนข้างดี  และยังมีรายได้เพิ่มจากพันธมิตรใหม่ ช่องอัมรินทร์ทีวี   


แม้ยอดขายจะปรับลดลง แต่ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้นเมื่อเทียบปีก่อน ด้วยสัดส่วนรายได้จากธุรกิจขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 60% เป็น 70%  ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มจาก  2Q62 ที่ 44.0% เป็น 52.7%


คาดใน 2H63 ธุรกิจสื่อจะฟื้นตัว หลังจากรัฐบาลคลาย Lockdown ทำให้กิจกรรมด้านบันเทิงกลับมาเปิดได้ เม็ดเงินโฆษณาจะดีขึ้น และคาดว่าบริษัทจะมีรายได้จากการจัดคอนเสิร์ต 1 งาน รายได้ราว 25 ล้านบาท  ส่วนธุรกิจ RS Mall คาด 4Q63 จะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็น Mass มากขึ้น  


ภาพรวมปี 2563 มองว่าผลประกอบการของ RS จะดีกว่ากลุ่มทีวีดิจิทัลรายอื่นๆ  เนื่องจากปัจจุบันสัดส่วนรายได้กว่า 70% มาจากธุรกิจขายสินค้า ซึ่งได้รับผลกระทบต่ำกว่ากลุ่มผู้ประกอบการทีวี และยังได้แรงหนุนจากการขายลิขสิทธ์คอนเทนต์ ที่คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 200 ล้านบาท ในด้านประสิทธิภาพในการทำไรคาดว่าจะดีขึ้น เนื่องจากรายได้จากการขายลิขสิทธ์คอนเทนต์ของบริษัทเองมีต้นทุนที่ต่ำมาก  และได้ผลบวกจากมาตรการช่วยเหลือทีวีดิจิทัล  ซึ่ง กสทช. มีการลดค่า USO แบบขั้นบันได จากเดิมที่ 0.5-2% เหลือ 0.125-1.50% ของรายได้  


โดยบริษัทยังมีการควบคุมค่าใช้จ่ายสำหรับธุรกิจ RS Mall ในการลดต้นทุนค่าขนส่งกับพาร์ทเนอร์ รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายที่คาดปรับลดลง 17%YoY เหลือ 29 ล้านบาท คงประมาณการกำไรปี 2563 ที่ 524 ล้านบาท เติบโต 44%YoY โดยกำไร 1H63 คิดเป็น 54% ของประมาณการกำไรทั้งปี   


คงคำแนะนำ "เก็งกำไร" คงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ RS ที่เติบโตดีกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มทีวีดิจิทัลรายอื่นๆ จากการปรับกลยุทธเน้นการเติบโตจากธุรกิจขายสินค้าแทนธุรกิจทีวีดิจิทัลที่เป็นขาลง และในปีนี้ยังได้แรงหนุนจากการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ มาช่วยชดเชยผลกระทบจาก COVID-19  โดยคาดกำไรปีนี้เติบโต โดดเด่นสวนทางผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลรายอื่นที่ติดลบ  และปี 64 เติบโตต่อเนื่อง 31%YoY  คงมูลค่าพื้นฐานปี 2564 ที่ 20.10 บาท อิงวิธี DCF ที่ WACC 9.2% 


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X