> SET > LPN

10 สิงหาคม 2020 เวลา 10:51 น.

LPNปรับกลยุทธ์ปั๊มรายได้ เร่งระบายสต็อก-ปล่อยเช่า

ทันหุ้น –สู้โควิด – LPN มีแผนระบายสต็อกที่มีอยู่กว่า 8 พันล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปีนี้ พร้อมปรับแผนให้เช่าโครงการ มูลค่า 200 ล้านบาท เสริมรายได้เพิ่ม เผยครึ่งปีแรกกวาดยอดขายแล้ว 5.7 พันล้านบาท จากเป้ายอดขายทั้งปีที่ 1 หมื่นล้านบาท เล็งเปิดคอนโดใหม่ 3 โรงการ มุลค่า 5 พันล้านบาท ในไตรมาส 4/2563


นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยว่า ทิศทางหลังจากนี้ ตลาดอสังหาฯ น่าจะเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น หลังสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลาย โดยเฉพาะตลาดบ้านแนวราบ แต่ในส่วนของตลาดคอนโดฯ ยังมีปัญหาในส่วนของการกู้แบงก์ และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว


*เร่งระบายสต็อก-ปล่อยเช่า

ทั้งนี้บริษัทมีแผนระบายสินค้าพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ (สต็อก) ที่มีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปีอีกราว 2,000 -3,000 ล้านบาท เพื่อสร้างรายได้ให้มากที่สุด ล่าสุดบริษัทได้ปรับแผนการดำเนินงานโดยได้นำโครงการางส่วน มูลค่าราว 200 ล้านบาทไปใช้ในการปล่อยเช่าเพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งทางด้านสภาพคล่องและกระแสเงินสดในระยะสั้นกลาง


สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ บริษัทเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ในช่วงไตรมาส 4/2563 อีก 3 โครงการ มีมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้เปิดโครงการไปแล้วราว 3 โครงการ โดย 6 เดือนเเรก 2563 ยอดการเปิดตัวโครงการใหม่สะสมในช่วงอยู่ที่ 4,600 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 171% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 1,700 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม บริษัทวางตัวเลขการเติบโตของยอดขาย (Presale) ปีนี้ 10,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมียอดขายแล้ว 5,700 ล้านบาท และเป้ารายได้ที่ 10,000 ล้านบาท ใกล้เคียงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 10,040.40 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการอสังหาฯ ประมาณ 9,000 ล้านบาท และอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท มาจากรายได้ค่าเช่าและรายได้การบริการจากความไม่แน่นอนของปัจจัยลบด้านโรค


*มอง Q2 ต่ำสุดของปี

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง LPN ว่ามีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการไตรมาส 2/2563 และคาดเป็นจุดต่ำสุดของปี และคาดผลประกอบการไตรมาส 3/2563 ทรงตัวถึงเติบโตขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน แต่เติบโตขึ้นเด่นจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากฐานที่ต่ำในช่วงไตรมาส 3/2563 จากการได้แรงหนุนของโครงการ แนวราบ 3 โครงการที่เปิดตัวในช่วงไตรมาส 1/2563 สำหรับผลประกอบการไตรมาส 4/2563 คาดเป็น Highlight ของปี จากการที่จะมีโครงการแนวสูงเสร็จใหม่พร้อมโอนทั้งสิ้น 3 โครงการ รวมมูลค่า 2.9 พันล้านบาท ปัจจุบันมี Backlog ส่วนนี้แล้วราว 1.7 พันล้านบาท


ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาขายโครงการ Lumpini Tower Vibhavadi - Chatuchak B ทั้งตึกกับคู่ค้า (ตึกออฟฟิศ มูลค่า 1.0 พันลบ.) คาดเห็นความชัดเจนมากขึ้นในช่วงปลายปี 2563 ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการ และเป็น Upside risk ต่อผลประกอบการและเงินปันผลในปี 2563 หากการซื้อ-ขายประสบความสำเร็จตามที่บริษัทคาดหมาย


ขณะที่คงประมาณการกำไรปกติปี 2563 ที่ 865 ล้านบาท และคงคำแนะนำ "ซื้อ" บนราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2563 ที่ 6.20 บาทต่อหุ้น อิง P/BV ปี 2563 ที่ 0.76 เท่า เทียบเท่า -0.75 SD จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของบริษัท พร้อมคาดผลตอบแทนจากเงินปันผลในช่วงสิ้นปี 2563 ที่ 0.38 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Yield ที่สูงถึง 7.5%


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X