> SET > GULF

11 สิงหาคม 2020 เวลา 19:05 น.

GULF กำไร Q2 ที่ 1,881 ลบ.โต 17.3% โบรกฯ คาด Q3 มีทิศทางดีขึ้น

ทันหุ้น-สู้โควิด :  บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ไตรมาส 2/63 มีกำไร 1,881 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 1,603 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 989 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 985 ล้าบาท แต่หากเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งอยู่ที่ 925 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% 


รายได้จากการขายและให้บริการในไตรมาส 2/63 เพิ่มขึ้น 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ 7,773 ล้านบาท จากการรับรู้ยอดขายเต็มไตรมาส ของโรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 12 โครงการในกลุ่ม GMP เทียบกับ 11 โครงการในไตรมาส 2/62 โดยทั้ง 12 โครงการสามารถขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือ กฟผ.ได้สูงขึ้นถึง 14.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน เนื่องจากในไตรมาส 2/62 ได้มีการปรับปรุงสายส่งขนาด 500 กิโลวัตต์ในจังหวัดระยองของ กฟผ.เป็นเวลา 37 วัน ส่งผลให้โรงไฟฟ้า SPP จำนวน 6 โครงการในจังหวัดระยองมีรายได้จากการขายไฟฟ้าโดยรวมลดลง 


นอกจากนี้ฐานลูกค้าอุตสาหกรรมยังเพิ่มขึ้น ทั้งจากลูกค้าเดิมที่มีการขยายธุรกิจและจากลูกค้าใหม่ แม้ว่าปริมาณการขายไฟฟ้าให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมในไตรมาส 2/63 จะลดลง เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ตาม อย่างไรก็ตามความต้องการใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ มิ.ย.2563 เป็นต้นมา


และบริษัทยังรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ GTN2 ในประเทศเวียดนาม และโรงไฟฟ้าชีวมวล GCG ซึ่งหากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โครงการ GTN2 เพิ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 19 เม.ย.2562 โดยรายได้ที่เติบโตขึ้นในไตรมาส 2/63 ได้รวมผลกระทบจากการหยุดซ่อมบำรุงรักษาตามแผนงาน ของโครงการGTS1 เป็นเวลา 18 วันแล้ว 


ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน คาดว่า GULF จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 1,802 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรปกติอยู่ที่ราว 912 ล้านบาท โดยถูกฉุดจาก GPM ที่ลดลงจากฝั่งขายไฟลูกค้าอุตสาหกรรมที่ลดลงจากผลกระทบโควิด-19 และดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นตามภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นตามการ COD โรงไฟฟ้า ส่วนการขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. เพิ่มจากไม่มีปิดซ่อมสายส่ง มาชดเชยส่วนของลูกค้าอุตสาหกรรมที่ลดลง และได้ส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นตามผลประกอบการโรง IPP ที่ได้ประโยชน์ไฮซีซั่น 


ส่วนไตรมาส 3/63 คาดว่าจะมีกำไรปกติที่ราว 1,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 38% จากไตรมาส 2/63 หลังจาก GPM ที่เพิ่มขึ้นจากส่วนของการขายไฟฟ้าให้ลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม ที่ต้นทุนก๊าซต่ำลงมากส่งให้ GPM มาอยู่ในระดับราว 27% เทียบกับไตรมาส 3/62 อยู่ที่ราว 24% รวมถึงไม่มีการปิดซ่อมใหญ่เหมือนกับไตรมาส 3/62 


โดยคงคำแนะนำซื้อเก็งกำไร มองราคาหุ้นที่ปรับลงจากความกังวลเพิ่มทุน เป็นโอกาสสะสมรับการเติบโตในอนาคต ให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2564 ที่ 40.20 บาทต่อหุ้น 


ราคาหุ้น GULF ปิดวันนี้อยู่ที่ 33.75 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.50% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 414.37 ล้านบาท 


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X