> SET > CPALL

13 สิงหาคม 2020 เวลา 10:49 น.

CPALL ครึ่งปีหลัง2563 ดีขึ้นจาก SSS ฟื้นตัวหนุน

ทันหุ้น-สู้โควิด-บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือSCBS ระบุว่า CPALL มีกำไรสุทธิ 2Q63 อยู่ที่ 2.9 พันลบ. -40% YoY และ -49% QoQ ดีเกินคาดจากการควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A และกำไรจาก MAKRO ที่ดีกว่าคาด


คาดว่าผลประกอบการของ CPALL ทำจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะปรับตัวดีขึ้นใน 2H63 เพราะ SSS จะฟื้นตัวดีขึ้นเนื่องจากไม่มีผลกระทบจากมาตรการภาครัฐในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 แม้ยอดขายของสาขาที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว (คิดเป็นสัดส่วนตัวเลขหลักเดียวระดับกลางถึงสูงของสาขาทั้งหมด) ยังไม่น่าจะกลับคืนสู่ระดับปกติ เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” CPALL ด้วยราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ที่ 85 บาท


CPALL รายงานกำไรสุทธิ 2Q63 อยู่ที่ 2.9 พันลบ. -40% YoY และ -49% QoQ ดีกว่าที่ SCBS คาดการณ์ไว้ที่ 2.4 พันลบ. และตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.1 พันลบ. โดยเกิดจากการควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A และกำไรจาก MAKRO ที่ดีกว่าคาด หากหักขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 2 ลบ. ออกไป พบว่ากำไรปกติ 2Q63 อยู่ที่ 2.9 พันลบ. -46% YoY และ -48% QoQ กำไรที่ลดลง YoY หลักๆ เกิดจาก SSS ที่หดตัวลง และอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนตัวลง ขณะที่กำไรจาก MAKRO (CPALL ถือหุ้น 93%) อยู่ในระดับทรงตัว


โดยธุรกิจร้านสะดวกซื้อ SSS หดตัวลง 20.2% YoY ใน 2Q63 จำนวนลูกค้าลดลงสู่ 841 คน/สาขา/วัน (-31% YoY) ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการของรัฐบาล ได้แก่ มาตรการจำกัดการเดินทางข้ามจังหวัด การขอความร่วมมือให้อยู่บ้าน เคอร์ฟิวช่วงกลางคืน การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการเลื่อนวันหยุดสงกรานต์ เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 ยอดซื้อต่อบิลเพิ่มขึ้นสู่ 79 บาท (+14.5% YoY) จากการขายผลิตภัณฑ์แพ็กใหญ่เพิ่มมากขึ้น การนำเสนอช่องทางการขายสินค้าผ่านบริการ 7-Eleven Delivery (ยอดซื้อขั้นต่ำ 100 บาท) และการซื้อโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า (ยอดซื้อต่อบิลต่ำ) ลดลง


ยอดขายลดลงทั้งในสินค้ากลุ่มอาหาร (อาหารแปรรูป เครื่องดื่ม และอาหารพร้อมทาน) และสินค้าอุปโภค (กลุ่ม personal care) สาขา CPALL เปิดสาขาร้านสะดวกซื้อเพิ่ม 106 สาขา ส่งผลทำให้จำนวนสาขารวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นสู่ 12,089 สาขา ณ สิ้น 2Q63, +5% YoY และ +1% QoQ อัตรากำไรขั้นต้นที่อิงกับส่วนผสมผลิตภัณฑ์ลดลงสู่ 26.6% (-30bps YoY) โดยเกิดจาก: 1.อัตรากำไรสินค้ากลุ่มอาหารที่ลดลง (-20bps YoY, 72% ของยอดขาย) จากการขายอาหารพร้อมทานที่ให้อัตรากำไรสูงได้น้อยลง


2. อัตรากำไรสินค้าอุปโภคที่ลดลง (-50bps YoY, 28% ของยอดขาย) จากการมีสัดส่วนยอดขายสินค้ากลุ่ม personal care ที่ให้อัตรากำไรสูงลดน้อยลง รายได้ค่าบริการ (1% ของยอดขาย) รายได้ค่าบริการ 70% มาจากเคาน์เตอร์เซอร์วิส ซึ่งรายได้ลดลงในอัตราที่น้อยกว่ายอดขายของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ เนื่องจากธุรกรรมชำระบิลที่ลดลงได้รับการชดเชยบางส่วนจากธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นจากการให้บริการ banking agent (จากฐานต่ำของปีก่อน เนื่องจากมีสถาบันการเงินใหม่ๆ เข้ามาเพิ่ม)


ค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง 9.5% YoY เพราะค่าใช้จ่ายพนักงาน (ค่าตอบแทนและค่าล่วงเวลา) ลดลง ค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการร้านลดลงตามยอดขายที่ลดลง และค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคลดลงจากการใช้ไฟฟ้าลดลง เนื่องจากอุณหภูมิลดลง YoY


ทางด้าน cash & carry (CPALL ถือหุ้น 93% ใน MAKRO) กำไรสุทธิ 2Q63 ของ MAKRO อยู่ที่ 1.2 พันลบ. ทรงตัว YoY แต่ -30% QoQ เนื่องจากอัตรากำไรที่ดีขึ้น (+20bps YoY) และอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายที่ลดลง (-10bps YoY) หักล้างกับ SSS ที่หดตัวลง (-3.6% YoY)


ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยในงบการเงินรวม เพิ่มขึ้น 17% YoY สู่ 2 พันลบ. โดยเกิดจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากการใช้มาตรฐานบัญชี TFRS 16 การออกหุ้นกู้ชุดใหม่ 7.5 พันลบ. ในเดือนพ.ค. และเงินกู้ธนาคารที่เพิ่มขึ้น


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X