> SET > ORI

17 สิงหาคม 2020 เวลา 08:15 น.

สแกนงบORIกำไรเกินคาด ครึ่งหลังมีโอน1.71หมื่นล.

ทันหุ้น –สู้โควิด –สแกนงบ ORI ไตรมาส 2/2563โชว์ผลงานดีกว่ากลุ่มและดีกว่าตลาดคาด จากรายได้การขายอสังหาที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง เผยมีโครงกาทยอยโอน 12 โครงการ มูลค่ากว่า 1.71 หมื่นล้านบาท เล็งเปิดใหม่อีก 114 โครงการ มูลค่ารวม 1.67 หมื่นล้านบาท มั่นใจเป้าหมายยอดขาย-ยอดโอนปีนี้ทำได้ตามเป้า


นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า ในส่วนของไตรมาส 2/2563 บริษัทสามารถทำยอดขาย (Presale) ได้กว่า 6,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น32%จากไตรมาสก่อน ส่งผลให้ครึ่งแรกของปี 2563 บริษัทมียอดขายสะสมแล้วกว่า 11,430 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นกว่า 53% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 21,500 ล้านบาท เเละมียอดโอนครึ่งปีเเรกที่ 5,041ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 14,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้ครึ่งปีเเรกอยู่ที่ 5,701 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 16,000 ล้านบาท เบื้องต้นจึงมั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 2563 มีโอกาสอย่างมากที่บริษัทจะสามารถทำยอดขาย ยอดโอน -รายได้ เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้


สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 บริษัทเตรียมเปิดโครงการ 14โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 16,700 ล้านบาทอย่างไรก็ดี บริษัทจะมีโครงการสร้างเสร็จใหม่พร้อมทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในครึ่งปีหลัง 12 โครงการ มลค่า 17,100 ล้านบาท และโครงการภายใต้กิจการร่วมค้า 2 โครงการ มูลค่า 5,300 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีโครงการรอโอน (Backlog)อยู่ที่ 38,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ต่อเนื่อง3 ปีข้างหน้า


*โชว์ผลงานดีกว่ากลุ่ม


บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง ORI ว่า บริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2563 โดดเด่นที่ 707 ล้านบาท (-4%จากปีก่อน, +19%จากไตรมาสก่อน) ดีกว่าที่เราและตลาดคาด +36% ส่วนกำไรปกติ +22%จากปีก่อน, +71%จากไตรมาสก่อนทั้งนี้ เป็นผลจาก 1.รายได้จากการขายอสังหาฯ เพิ่มขึ้น +9%จากปีก่อน, +58%จากไตรมาสก่อนดีกว่ากลุ่มที่ปรับลงจากปีก่อนและจากไตรมาสก่อน


และ2.SG&A/Sales ลดลงเหลือ 13.6% (จากไตรมาส 2/2562 = 22.9% และไตรมาส 1/2563 = 24.3%) ดีกว่าที่คาดมาก จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดมาใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น รวมถึงโปรแกรม Everyone Can Sell ที่ใช้พนักงานมาช่วยขายยังสามารถทำยอดขายได้ดี ด้านอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 35.4% (ไตรมาส 2/2562 = 42.9%, ไตรมาส 1/2563 = 39.9%) ต่ำกว่าที่คาดเล็กน้อย เนื่องจากการแข่งขันด้านราคา ทำให้ต้องมีการปรับลดราคาขายลง สำหรับกำไรสุทธิรวมครึ่งปีแรก 2563 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท -11%จากปีก่อน


โดยกำไรปกติครึ่งปีหลัง 2563จะเพิ่มขึ้น 25%จากครึ่งปีแรก และจะเติบโตโดดเด่นในปี 2564 จึงปรับกำไรสุทธิปี 2563ขึ้นเดิม 12% เป็น 2.7 พันล้านบาท -11% จากปีก่อน ส่วนกำไรปกติจะอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท -2%จากปีก่อนซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ปรับตัวลง 30%จากปีก่อนโดยมีการปรับรายได้ขึ้นจากเดิม 18% เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท -2%จากปีก่อนตามยอด Backlog ที่สูงขึ้น ซึ่งคิดเป็น 92%ของรายได้ที่ประเมิน ขณะที่ในส่วนโครงการ JV ยังประเมินรายได้ที่ 6 พันล้านบาท ซึ่งมี Backlog ครอบคลุมรายได้ทั้งหมดแล้ว


*โบรกอัพเป้าใหม่ 9.70 บาท


นอกจากนั้น มีการปรับ SG&A/Sales ลงเป็น 19.3% จากเดิม 22.9% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น สำหรับกำไรสุทธิครึ่งปีหลัง 2563ประเมินจะกลับมาเติบโต +25%จากครึ่งปีแรกตามยอดโอนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นทั้งจากมีคอนโดใหม่เริ่มโอนเพิ่มขึ้นมาก และยอด Backlog ที่เพิ่มขึ้นจากยอด Presales งวดครึ่งปีแรกที่เพิ่มขึ้นมาก นอกจากนั้น ยังมีการปรับกำไรสุทธิปี 2564ขึ้นจากเดิม 8% เป็นจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.05 พันล้านบาท กลับมาเติบโต 14%จากปีก่อนจากภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยที่ฟื้นตัว ขณะที่ ORI ยังมี Backlog ที่จะรับรู้เป็นรายได้ปี 2564คิดเป็นมากกว่า 64% จากเป้าหมายยอดโอนแล้ว


อย่างไรก็ตาม ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9.70 บาท อิง  PER ปี 2564ที่ 7.8 เท่า (5-yr average PER) จากเดิม 7.70 บาท อิง PER ปี 2563 ที่ 7.8 เท่า (5-yr average PER) โดยมี Key Catalyst แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลัง 2563 ที่จะยังฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง จาก Backlog รอโอนที่สูง และมีคอนโดใหม่เริ่มโอนมากขึ้น รวมถึงประเมินว่ากำไรปี 2564 จะกลับมาเติบโตได้

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X