ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แนะนำ "BUY" บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP มองว่าสถานการณ์ต่างๆ ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยคาดว่ายอดขาย+มาร์จิ้นของธุรกิจหลักจะฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี ผลการดำเนินงานที่อ่อนแอใน 1H63A เกิดจากรายการพิเศษ โดยไม่น่ามีมากในครึ่งหลัง ทำให้คาดกำไรจะฟื้นตัวได้ดี Valuation ปัจจุบันถูกมากเพียง P/B 0.5x; มองว่าน่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว แนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเป้าหมาย 22.10 บาท/หุ้น

ความเคลื่อนไหวของหุ้น BCP อยู่ที่ 18.40 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 1.08% มูลค่าการซื้อขาย 8.68 ล้านบาท

ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จากการประชุมนักวิเคราะห์ BCP มองว่าสถานการณ์ทางธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจโรงกลั่นและค้าปลีกน้ำมันได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยจะค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี : 1) คาดว่ากำลังผลิตของโรงกลั่นจะเพิ่มจาก 97 พันบาร์เรล/วัน เป็น 100 พันบาร์เรล/วัน จากการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ทำให้ความต้องการน้ำมันเริ่มกลับมา; 2) คาด Market GRM จะดีขึ้นจาก $3.4/บาร์เรลใน 1H63A เป็น $4.0 ใน 2H63F ตามความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปที่ดีขึ้น; 3) ยอดขายของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่กลางไตรมาส 2Q63 และคาดหวังยอดขายน้ำมัน Jet กลับมาในไตรมาสสุดท้ายของปี; และ 4) รายได้+กำไรของ BCPG เติบโตดีจากการทำ M&A โรงไฟฟ้า Solar 20 MW ซึ่งจะรับรู้รายได้+กำไรทันทีใน 3Q63F และเป็น High season ของโรงไฟฟ้า Hydro 

ผลการดำเนินงาน 1H63A ได้รับผลกระทบจากรายการพิเศษ ใน 1H63A BCP รายงานขาดทุนสุทธิสูงถึง -6.6 พันลบ. แต่ก็เกิดจากรายการพิเศษหลายรายการ ได้แก่ 1) ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน (รวมกลับรายการ NRV) -5.2 พันลบ.; 2) ตั้งสำรองลูกหนี้ค่าน้ำมันการบินไทย -895 ลบ.; 3) ตั้งค่าเผื่อด้อยค่าของธุรกิจต่างๆ -1.5 พันลบ. ทั้งธุรกิจ Natural Resources และธุรกิจการตลาด Non-oil; และ 4) มีส่วนแบ่งขาดทุนจาก บ. ร่วม จากการตั้งสำรองของ OKEA ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการพิเศษ BCP ก็ยังสามารถทำกำไรปกติได้ราว 600 ลบ. ลดลงเพียงเล็กน้อยจากปีก่อน มองว่ารายการพิเศษต่างๆ โดยเฉพาะขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันไม่น่ามีมากในครึ่งหลังของปี ซึ่งจะทำให้กำไรของ BCP ฟื้นตัวได้ดีในช่วงที่เหลือของปี   

ปรับโครงสร้างธุรกิจบางจากรีเทล ใน 2Q63 BCP ได้ตัดสินใจปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจของบางจากรีเทลในธุรกิจ Non-oil โดยการยกเลิกธุรกิจร้านสะดวกซื้อ SPAR (ซื้อไลเซนส์มาทำเอง) ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ทำให้เกิดผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ -135 ลบ.   โดย BCP ได้หันมาร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัลในการนำร้าน Family Mart และ Tops Daily เข้ามาแทน   ด้วยความหลากหลายของสินค้าที่มากขึ้นประกอบกับการปรับรูปแบบสถานีบริการให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้ลูกค้าหันมาใช้บริการมากขึ้น ทั้งนี้ BCP จะได้ค่าเช่าในรูปแบบ Revenue sharing ซึ่งน่าจะเพิ่มสัดส่วนกำไรของธุรกิจ Non-oil ได้ในระยะยาว

Valuation ปัจจุบันถูกมาก; แนะนำ "ซื้อ" ราคาหุ้น BCP ได้รับแรงกดดันจากงบการเงินที่อ่อนแอ จนปัจจุบันซื้อขายด้วย P/B เพียงแค่ 0.5x ซึ่งมองว่าถูกเกินไป โดยเฉพาะหากดูที่มูลค่าตลาดของหุ้น BCPG ที่ถืออยู่ 70% ราว 2.1 หมื่นลบ. ก็คิดเป็นกว่า 80% ของมูลค่าตลาดปัจจุบันของหุ้น BCP ที่ 2.6 หมื่นลบ. แล้ว เท่ากับว่าตลาดแทบไม่ได้ให้มูลค่ากับธุรกิจอื่นๆ ทั้งโรงกลั่น, ค้าปลีกน้ำมัน, และ BBGI เท่าใดนัก ดังนั้น หากธุรกิจหลักของ BCP ฟื้นตัวตามที่คาดก็น่าจะเป็นแรงหนุนให้ราคาหุ้นฟื้นตัวได้เร็ว  แนะนำ "ซื้อ" สำหรับการการลงทุนระยะยาว ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ 22.1 บ. โดยอิง P/B เป้าหมายตามเดิมที่ 0.64x 

สำหรับปัจจัยเสี่ยง ภาวะเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมัน ภาวะชะลอตัว/ชะงักงันของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลก ค่าการกลั่น ปริมาณขาย ต่ำกว่าประมาณการ รวมถึงความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ หากราคาน้ำมันดิบลดลงแรงและทรงตัวในระดับต่ำจะกระทบต่อมูลค่าของธุรกิจที่ลงทุน และอาจจำเป็นต้องตั้งด้อยค่า

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1