> SET > BCP

24 สิงหาคม 2020 เวลา 12:37 น.

BCPพ้นจุดต่ำสุดแวว22.1บ. จ่อยื่นไฟลิ่งBBGIช่วงQ4นี้

ทันหุ้น - BCP เล็งยื่นไฟลิ่งบ.ย่อย BBGI ปลายปีนี้ หวังขาย IPO ได้กลางปี 2564 แถมคาด GRM ครึ่งหลังปี 2563 ขยับเพิ่มมาอยู่ที่ราว 4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รับดีมานด์ฟื้นตัว พร้อมเลื่อนปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นแพลนที่ 2 เป็นช่วง Q1/2564 อัพศักยภาพการผลิตเพิ่ม


นางสาวศุภมล เอี่ยมอ่อน ผู้จัดการส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บริษัทมีแนวคิดจะยื่นแบบแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อนำบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI ซึ่งเป็นบริษัทย่อย BCP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หวังระดมทุนเสริมแกร่งธุรกิจในระยะยาว คาดชัดเจนช่วงไตรมาส 4/2563 และเชื่อว่าจะสามารถเปิดและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ของบริษัทดังกล่าวได้ในช่วงกลางปี 2564 (เดิม BCP มีแผนยื่นไฟลิ่ง BBGI ในช่วงไตรมาส 3/2563 และหวังเทรดในไตรมาส 4/2563)


ค่าการกลั่นครึ่งหลังฟื้น

ขณะที่แนวโน้มอัตราค่าการกลั่น(GRM) ในครึ่งหลังปี 2563 คาดน่าจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 4 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับครึ่งแรกปีนี้ที่ราว 3.36 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ผลมาจากความต้องการใช้น้ำมันในประเทศฟื้นตัว หลังได้มีการคลายล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา


นอกจากนี้ ทาง BCP ได้มีการเลื่อนปิดซ่อมบำรุงหน่วยการกลั่นในแพลนที่ 2 จากเดิมที่มีกำหนดปิดซ่อมในช่วงไตรมาส 2/2563 เป็นไตรมาส 1/2564 แทน เพราะมองในช่วงดังกล่าวความต้องการใช้น้ำมันโดยรวมอยู่ในระดับที่ต่ำและมีการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ทำให้ทีมงานบางส่วนไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งการปิดซ่อมบำรุงดังกล่าวนั้นน่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพของธุรกิจได้ในอนาคต


พ้นจุดต่ำสุดแวว22.10บ.

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮาส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น BCP ให้ราคาเป้าหมาย 22.10 บาท เนื่องจากฝ่ายวิเคราะห์มองภาพรวมธุรกิจได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว คาดว่ายอดขายและมาร์จิ้นของธุรกิจหลักจะฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี 2563 เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานที่อ่อนแอในครึ่งแรกปีนี้ เพราะเกิดจากรายการพิเศษทั้งการขาดทุนสต็อกและอื่นๆ


ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่ากำลังผลิตของโรงกลั่นจะเพิ่มจาก 9.7 หมื่นบาร์เรลต่อวัน เป็น 1 แสนบาร์เรลต่อวัน จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ทำให้ความต้องการน้ำมันเริ่มกลับมาดีขึ้น ประกอบกับฝ่ายวิเคราะห์เชื่อว่า Market GRM จะดีขึ้นจากราว 3.4 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในครึ่งแรกปีนี้ เป็น 4 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในครึ่งหลังปี 2563 ตามความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปที่ดีขึ้น


ขณะเดียวกันฝ่ายวิเคราะห์ยังประเมินว่ายอดขายของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่กลางไตรมาส 2/2563 และคาดหวังยอดขายน้ำมัน Jet กลับมาในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ อีกทั้งมองว่ารายได้และกำไรของบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เติบโตดี ผลจากการทำ M&A โรงไฟฟ้า Solar 20MW ซึ่งจะรับรู้รายได้และกำไรทันทีในไตรมาส 3/2563 และเป็น High season ของโรงไฟฟ้า Hydro ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่เข้ามาช่วยหนุน BCP อีกทางหนึ่ง


อย่างไรก็ดี ล่าสุดการปรับโครงสร้างธุรกิจบางจากรีเทลในไตรมาส 2/2563 ที่ผ่านมา โดยได้ตัดสินใจปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจของบางจากรีเทลในส่วนของธุรกิจ Non-oil โดยมีการยกเลิกธุรกิจร้านสะดวกซื้อ SPAR (ซื้อไลเซนส์มาทำเอง) ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ทำให้เกิดผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ -135 ล้านบาท โดย BCP ได้หันมาร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัลในการนำร้าน Family Mart และ Tops Daily เข้ามาแทน ด้วยความหลากหลายของสินค้าที่มากขึ้นประกอบกับการปรับรูปแบบสถานีบริการให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้ลูกค้าหันมาใช้บริการมากขึ้น ทั้งนี้ BCP จะได้ค่าเช่าในรูปแบบ Revenue sharing ซึ่งน่าจะเพิ่มสัดส่วนกำไรของธุรกิจ Non-oil ได้ในระยะยาว

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X