เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่จัด Ceiling ในปีนี้สำหรับหุ้น VGI หรือ บมจ.วีจีไอ ผู้ประกอบธุรกิจสื่อโฆษณารายใหญ่ ที่ไม่ว่าคุณจะขึ้นรถไฟฟ้า BTSหรือขึ้นลิฟท์อาคารบางแห่งในกรุงเทพฯ ก็มีโอกาสพบเห็นโฆษณาที่เผยแพร่ผ่านหน้าจอของ VGI นอกจากธุรกิจสื่อโฆษณาแล้ว VGI ได้มีการลงทุนในธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ผ่านKerry Express (ประเทศไทย) โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น Kerry 23% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

ประเด็นสำคัญคือ Kerry Express ได้ประกาศยื่นเอกสาร Filing ให้กับ ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 300 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 17.2% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด...จากประกาศครั้งนี้ ทำให้หุ้น VGI ที่มีการถือหุ้น Kerry ในสัดส่วน 23% ได้ปัจจัยบวกด้าน Sentiment ส่งผลให้ราคาหุ้น VGI ขึ้นไปแตะ Ceiling ที่ 6.80 บาท บวกกว่า +14.29% ในวันพุธที่ 26 ส.ค. และเปิดกระโดดขึ้นอีก +11% ในเช้าวันถัดมา

ประเด็นดังกล่าวเป็นผลบวกด้าน Sentiment ต่อราคาหุ้นเท่านั้น เพราะถ้าวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของ VGI แล้ว ธุรกิจสื่อโฆษณาซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ไม่น้อย อย่างที่เราเห็นกันไปแล้วในผลการดำเนินงานช่วง Q2/63* ที่ผ่านมา VGI พลิกมาเป็นขาดทุนจากที่มีกำไรในปีก่อนหน้า โดยเป็นผลจากรายได้ค่าโฆษณาที่ลดลงนั่นเอง

VGI รายงานผลการดำเนินงาน Q2/63 มีรายได้จากการดำเนินงาน 445 ล้านบาท ลดลงจาก Q2/62 ที่มีรายได้จากการดำเนินงาน 902 ล้าน หรือลดลง -50.6% YoY แบ่งออกเป็นรายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน 266 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน -64.1% YoY ซึ่งเป็นผลกระทบจาก COVID-19 และรายได้ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล 179 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน +12.1% YoY เนื่องจากการขยายตัวดีขึ้นของการโฆษณาออนไลน์

เมื่ออ่านจนถึงบรรทัดสุดท้ายของผลการดำเนินงาน Q2/63 พบว่า VGI ขาดทุนสุทธิจำนวน 104 ล้านบาท พลิกจากที่มีกำไรสุทธิใน Q1/63 จำนวน 364 ล้านบาท และพลิกจากที่มีกำไรสุทธิใน Q2/62 จำนวน 304 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้รายได้ค่าโฆษณาลดลง

นอกจากนี้ ทางผู้บริหารของ VGI ก็มีความเห็นเกี่ยวกับภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง ว่า VGI ยังมีความกดดันจากการระบาดของ COVID-19 และสภาพเศรษฐกิจในอนาคต รวมไปถึงเสถียรภาพทางการเมืองที่ไม่ค่อยดี ส่งผลให้ VGI มีความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจอยู่พอสมควร ทำให้เรามีความเห็นต่อ VGI ในเชิงลบมากกว่าบวก หากนักลงทุนต้องการซื้อหุ้น VGI ในระยะยาว แนะนำให้ติดตามสถานการณ์ด้านผลการดำเนินงาน และการระบาดของ COVID-19 ให้ดี เพื่อมาวิเคราะห์จุดซื้อที่เหมาะสมต่อไป

ในขณะที่การลงทุนหรือซื้อขายหุ้นและ Single Stock Futures ของ VGI ระยะสั้น กลับต่างออกไปจากปัจจัยพื้นฐาน เมื่อพิจารณาด้วยปัจจัยทางเทคนิค เรามีความเห็นและคำแนะนำด้านกลยุทธ์ ดังนี้

ราคาหุ้น VGI ก่อนหน้านี้มีแนวโน้มขาลง มีการเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ-แนวต้าน 5.70 - 6.90 บาท การเปิด Gap ทะลุ 6.90 บาทพร้อมวอลุ่มการซื้อขายมหาศาลได้ ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะติดตามราคาในฝั่งขาขึ้น จุดสังเกต คือ การยืนเหนือแนวรับ 6.90 บาท จะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหรือเปิดสถานะ Long เนื่องจาก เราพบ Upside ด้านบนมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 7.80 และ 8 บาท ส่วนแนวรับซึ่งใช้เป็นจุด Stop Loss ชัดเจน ณ ราคา 6.90 บาท แต่เบื้องต้นต้องยืนเหนือ 6.90 บาท ให้ได้ก่อนจึงจะเปิด Long

ทั้งนี้ แม้ว่าราคาหุ้น VGI จะมีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้น แต่ประเด็นที่ผ่านเข้ามาสั้นๆ อย่างการเตรียมตัว IPO ของ Kerry ยังไม่ใช่จุดเปลี่ยนที่สำคัญต่อปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในขณะนี้และไม่รู้จะจบลงเมื่อไร ดังนั้น การเปิดสถานะ Long หรือซื้อหุ้น VGI ต้องสอดคล้องกับความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ และพร้อมที่จะ Stop Loss ตามวินัยหากราคาหุ้นหลุดแนวรับสำคัญด้วย

หมายเหตุ: ราคาหุ้น VGI ณ วันที่ 27 ส.ค. 63

*VGI จะเขียนในรายงานว่าเป็นผลการดำเนินงาน Q1/64 แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นผลการดำเนินงานของเดือน เม.ย. – มิ.ย. 63 เราจึงกำหนดในบทความนี้เป็น Q2/63 แทนที่จะเป็น Q1/64 เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจง่ายขึ้น

ที่มา : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่

APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5

FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1