ทันหุ้น – สู้โควิด – จับตา ภูเก็ตโมเดล เปิดรับฟังความคิดเห็นชาวภูเก็ต 5-6 กันยายนนี้ หอการค้าเชื่อทุกภาคส่วนเข้าใจ แม้ยังกังวลการคัดกรอง ผู้ว่า ททท. พร้อมทำความเข้าใจคนทั้งประเทศ ด้าน CENTEL ประกาศชัดนำโรงแรมเป็นที่กักตัว ย้ำธุรกิจท่องเที่ยวต้องพึ่งเม็ดเงินต่างประเทศ ซื้อ Brown Dessert นำชานมไข่มุกเติมพอร์ตธุรกิจอาหาร ด้าน ศบศ. เพิ่มสิทธิเที่ยวไทย

ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) วานนี้ (2 กันยายน 2563) มีมติเห็นชอบการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มเติมภายใต้โครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" แบ่งออกเป็น 2 แนวทาง ได้แก่

1. เห็นชอบให้มีการเพิ่มสิทธิให้ผู้ลงทะเบียนจำนวน 3 สิทธิ ได้แก่ (1) เพิ่มส่วนลดค่าที่พัก 40% เป็นจำนวน 10 คืนต่อคน (2) เพิ่มคูปองอาหารต่อการท่องเที่ยววันธรรมดา 900 บาทต่อวัน, วันหยุดที่ 600 บาท และ (3) ให้เงินคืนค่าตั๋วเครื่องบินจำนวน 2,000 บาทต่อที่นั่ง โดยเริ่มดำเนินการนับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563

และ 2. เห็นชอบในหลักการให้ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และพนักงานรัฐวิสาหกิจ สามารถลาพักผ่อนในวันธรรมดาเพิ่มได้ 2 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลาเมื่อลงทะเบียนและใช้สิทธิในแพ็คเกจเราเที่ยวด้วยกัน

สำหรับโครงการ “ภูเก็ตโมเดล” นั้นรัฐบาลจะรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในจังหวัดภูเก็ตในวันที่ 5-6 กันยายนนี้ ควบคู่กับการเตรียมความพร้อม ให้การฝึกอบรมพนักงานโรงแรม – สถานที่ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวให้มีความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติตัวและการประสานงานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

@เร่งทำความเข้าใจ

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุ การพิจารณาเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นไปตามขั้นตอน และผู้ปฏิบัติงานทุกส่วนพร้อมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้งประเทศ ควบคู่กับการสร้างความมั่นใจว่าการดำเนินงานทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข

ทั้งนี้จากการดำเนินงานที่ผ่านมา ทั้งการนำคนไทยกลับประเทศ, เปิดให้ชาวต่างชาติที่มีบ้านหลังที่ 2 ในประเทศไทย หรือทำงานในประเทศไทยทยอยเดินทางกลับมา โดยต้องอยู่ในสเตท ควอรันทีน (State Quarantine ) ก่อนให้ออกมาดำเนินชีวิตตามปกติ ก็สามารถคัดกรองได้ 100% ดังนั้นจึงต้องเร่งทำความเข้าใจ และสร้างความมั่นใจกับประชาชนทั้งประเทศว่ารัฐบาลมีมาตรฐานการคัดกรองที่ปลอดภัยสูงสุด

@เชื่อชาวภูเก็ตเข้าใจ

นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานสภาหอการค้าจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ประชาชนรวมถึงผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีความเข้าใจ และตระหนักถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการที่จะใช้จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่องในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น ทุกภาคส่วนเข้าใจ และพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ประชาชนในบางพื้นที่ยังมีความกังวลว่า รัฐบาลจะไม่เข้มงวดในการคัดกรองนักท่องเที่ยวเท่าที่ควร

สำหรับ “ภูเก็ตโมเดล” ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีแนวทางการดำเนินงาน 5 T คือ Test คัดกรอง,Train ฝึกอบรมพนักงานในโรงแรม-สถานที่ที่จะใช้กักตัว, Treat ให้การรักษา, Track มีระบบติดตาม 100%, และ Truss จะมีการตั้งกองทุนเพื่อระดมเงินไว้รองรับค่าใช้จ่ายหากมีผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในพื้นที่ และพร้อมเป็นโมเดลต้นแบบให้จังหวัดอื่นนำไปใช้ในอนาคต

CENTEL ผนึกรพ. ร่วม

ดร.รณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ระบุ เครือเซ็นทาราได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำ เพื่อนำโรงแรมในจังหวัดภูเก็ตหลายแห่งเข้าร่วมเป็นสถานที่กักตัวแห่งรัฐทางเลือก Alternative State Quarantine หรือ ASQ โดยมีการอบรมพนักงานโรงแรมทุกคนให้มีความรู้ พร้อมปฏิบัติงานทันทีเมื่อเริ่มดำเนินโครงการ

ทั้งนี้กลุ่มบริษัทมีความมั่นใจในมาตรฐานการคัดกรองของภาครัฐบาลทั้งกระบวนการตั้งแต่ประเทศต้นทางจนถึงสถานที่กักตัวทางเลือก โดยตลอดระยะเวลา 14 วันของการกักตัว นักท่องเที่ยวจะต้องอยู่ภายในห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง ไม่สามารถออกมาเดินเล่นภายในอาคาร หรือชายหาดได้ เมื่อครบ 14 วันแล้วจึงจะสามารถเดินเล่น-ท่องเที่ยวได้เฉพาะภายในบริเวณที่พักอีกตามระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนด จึงจะสามารถออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัดได้

“อยากให้รัฐบาลสร้างความมั่นใจว่าการทำงานทุกภาคส่วนมีความเข้มงวด ผู้ปฏิบัติทุกขั้นตอนตระหนักดีว่าไม่ต้องการให้เกิดการแพร่ระบาดระลอก 2 เพราะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต้องพึ่งพาเม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามาต่อยอดการท่องเที่ยวของคนในประเทศ”

ดร.รณชิต ระบุ ณ ปัจจุบันอัตราการเข้าพักโรงแรมทั่วประเทศเฉลี่ยอยู่ที่กว่า 30% โดยจะมีอัตราการเข้าพักหนาแน่นเฉพาะช่วงวันหยุด และจะหนาแน่นเฉพาะที่หัวหิน และพัทยาเท่านั้น ส่วนในวันธรรมดาและจังหวัดที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินยังมีอัตราการเข้าพักน้อย ทั้งนี้จุดคุ้มทุนของธุรกิจโรงแรมเฉลี่ยอัตราการเข้าพักระหว่าง 30-35% ขึ้นอยู่กับขนาดของโรงแรมเป็นหลัก

พร้อมกันนี้ได้กล่าวถึงการที่เข้าถือหุ้นใน Brown Dessert สัดส่วน 51% นั้นเป็นไปตามแผนการเพิ่มรายได้ในระยะยาวของบริษัท เนื่องจากพบว่าตั้งแต่รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายตามระยะ ธุรกิจอาหารสามารถฟื้นตัวได้สูงถึง 80-90% พร้อมกันนี้พบว่าผู้บริโภคทุกวัยชื่นชอบเครื่องดื่ม “ชาไข่มุก” จึงมั่นใจว่า “บราวน์ คาเฟ่” จะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจอาหารของกลุ่มบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ