> อาหารสมอง >

04 กันยายน 2020 เวลา 14:00 น.

ทำงานมา 20 ปี ยังทันมั้ย! ถ้าจะเริ่มเก็บเงิน

อย่ารอจนเกษียณอายุ เพราะอาจจะสายเกินไปที่จะเริ่มเก็บเงินให้ทัน ยิ่งหากคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนด้วยแล้ว แค่จะใช้เงินให้ถึงสิ้นเดือนยังเป็นเรื่องยาก แล้วเราจะเริ่มต้นเก็บเงินเพื่อเตรียมตัวเกษียณอายุยังไงดี อยากจะบอกว่า ถ้าหากคุณทำงานมาแล้ว 20 ปี ก็ยังไม่สายจนเกินไปที่จะวางแผนการมีชีวิตในวัยเกษียณอย่างมีความสุข และมีเงินใช้ได้อย่างเพียงพอ


แล้วจะต้องมีเงินเท่าไร ถึงจะพอสำหรับใช้จ่ายได้สบายๆ ในช่วงเกษียณอายุ

ตัวอย่าง หากคุณจะเกษียณตอนอายุ 60 ปี และคาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณไปอีก20 ปี (อายุ 80) โดยที่มีค่าใช้จ่ายปัจจุบันอยู่ที่ 30,000 บาทต่อเดือนคุณจะต้องมีค่าใช้จ่ายหลังเกษียณอยู่ที่ 21,000 บาทต่อเดือน (70%x 30,000) (คิด70%ของค่าใช้จ่ายปัจจุบันเพราะต้องอย่าลืมเรื่องอัตราเงินเฟ้อในอีก 20 ปีข้างหน้าด้วย) หรือ คิดเป็น 252,000 บาทต่อปีจากนั้นก็คูณด้วยจำนวนปีที่คาดว่าจะใช้ชีวิตหลังเกษียณ นั่นก็คือ 20 ปีซึ่งจะได้ผลลัพท์ออกมาว่า คุณจะต้องมีเงินออมสะสมตอนอายุ 60 ปี ที่จำนวนเงิน 5,040,000 บาท เลยทีเดียว ซึ่งถอดออกมาเป็นสูตรคำนวณได้ตามด้านล่างนี้

จำนวนเงินที่ควรจะมี ณ วันเกษียณอายุ = (70% ของค่าใช้จ่ายปัจจุบัน) x 12x จำนวนปีที่คาดว่าจะใช้ชีวิตหลังเกษียณ


5,040,000 บาท = (70%X30,000 บาท) X12 เดือน X 20 ปี


แล้วจะต้องออมเงินอย่างไรจึงจะถึงเป้าหมายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ



หากที่ทำงานของคุณมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับพนักงาน ถือว่าเป็นการสะสมเงินทางอ้อมโดยที่ลูกจ้างและนายจ้างสมัครใจร่วมกันสมทบเงินเข้ากองทุน คุณควรที่จะเลือกให้บริษัทหักเงินสะสมในเปอร์เซ็นต์ที่สูงสุดคือ 15% เสมือนได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นจากเงินสมทบที่นายจ้างจ่ายให้เป็นสวัสดิการ เพราะยิ่งหักเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพเยอะ คุณก็ยิ่งได้รับเงินสมทบจากนายจ้างเยอะเช่นกัน แถมเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ซึ่งเงินก้อนนี้คุณสามารถเก็บสะสมไว้ใช้ยามเกษียณได้เลย


ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หรือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)

เริ่มลงทุนด้วย RMF ซึ่งเหมาะมากกับการสะสมเงินไว้ใช้ยามเกษียณ เพราะเราต้องถือครอง RMF ยาวจนถึงอายุ 55 ปี แต่หากใครที่รับความเสี่ยงได้มากขึ้นมาหน่อย อาจมองหาช่องทางการลงทุนใน LTF ไว้ด้วย เพราะการถือครองไม่ยาวเหมือน RMF ทำให้เราสามารถหาจังหวะขายทำกำไรระยะสั้นได้ หรือจะเก็บยาวต่อไปก็ได้ (ควรศึกษาเงื่อนไขการลงทุนก่อนตัดสินใจ) ที่สำคัญเงินที่เราลงทุนใน RMF และ LTF ยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีประจำปีได้อีกด้วย ส่วนจะประหยัดภาษีได้เท่าไร ก็ขึ้นกับฐานภาษีของแต่ละคน ยิ่งฐานภาษีสูงก็ยิ่งประหยัดได้มาก


ลงทุนในหุ้นกู้

การลงทุนในหุ้นกู้ค่อนข้างได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะของภาคเอกชน ความมั่นคงขึ้นอยู่กับบริษัทที่จัดตั้ง ไม่มีการประกันจากธนาคาร และรัฐบาล จึงมีข้อได้เปรียบสำหรับนักลงทุนคือมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าพันธบัตรของรัฐบาล แต่ก็มีความเสี่ยงมากกว่าตามไปด้วย การออกหุ้นกู้มีหลายแบบ เช่น แบบดอกเบี้ยคงที่ แบบอัตราลอยตัว แบบทยอยคืนเงินต้น และแบบแปลงสภาพได้ หากจะลงทุนกับหุ้นกู้ ควรจะถามตัวเองก่อนว่า พร้อมจะรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน หากพร้อมที่จะเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่สูงกว่า การลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทที่ได้รับความน่าเชื่อถือ ก็เหมาะที่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

ทำประกันแบบสะสมทรัพย์ หรือ ประกันบำนาญ

ขึ้นชื่อว่าการทำประกัน หลายคนคงกลัวเรื่องระยะเวลาและผลตอบแทน บางทีไม่คุ้มค่ากับการเก็บออมระยะยาว รวมถึงเห็นผลได้ไม่ทันท่วงที แต่การเลือกออมเงินด้วยวิธีนี้ คือ ทางเลือกที่จะทำให้ชีวิตในวัยเกษียณของคุณมั่นคงยาวนานยิ่งขึ้น สามารถเลือกรูปแบบประกันชีวิตที่ให้ผลประโยชน์ในแบบที่ต้องการได้หลากหลายรูปแบบ เพียงประเมินรายจ่ายหลังเกษียณไว้ และเลือกแบบประกันที่คุ้มครองหรือให้ผลตอบแทนที่ครอบคลุมรายจ่ายในอนาคตของเราได้

สามารถเลือกได้ทั้งแบบระยะสั้น และระยะยาว เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพคล่องทางการเงินของคุณ แต่หากยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อประกันแบบใดดี แนะนำให้เลือกประกันชีวิตแบบระยะยาว เพราะแบบประกันส่วนมากยิ่งระยะเวลานานยิ่งได้เงินสะสมมาก แถมยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้หลายปีด้วย


ลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์แล้วปล่อยเช่า

ในช่วงดอกเบี้ยขาลง การลงทุนเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์แล้วปล่อยเช่า เช่น คอนโด , ทาวน์โฮม ถือว่าเป็นการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อย แถมยังสามารถเก็บเป็นทรัพย์สินในอนาคตได้ แต่ปัจจุบันมีโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้การลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่าไม่ได้มีกำไรมากเหมือนแต่ก่อน แถมยังหาคนเช่าได้ไม่ง่ายนัก ดังนั้น ก่อนลงทุนควรพิจารณาทำเลที่ตั้งที่ติดแนวรถไฟฟ้า ใกล้แหล่งชุมชน มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็จะทำให้มีโอกาสหาผู้เช่าได้ง่ายขึ้น รวมถึงราคาของทรัพย์สินก็จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตหากอยู่ในทำเลที่ดี นอกจากนี้การกู้เงินเพื่ออสังหาริมทรัพย์ยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีให้เราได้อีกทางหนึ่งด้วย


นี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานมาแล้ว 20 ปี ซึ่งยังไม่สายจนเกินไปหากคุณจะรีบเก็บเงินเพื่อเตรียมตัวก่อนเกษียณอายุ ที่สำคัญอย่าลืมดูแลสุขภาพของคุณเองด้วย เพราะไม่เช่นนั้นเงินที่คุณเก็บมาทั้งหมดก็จะละลายหายไปกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในยามที่คุณเจ็บป่วย ซึ่งค่ารักษาพยาบาลในอนาคตก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย


โดย ธ.ไทยพาณิชย์

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X