GULF รายงานกำไรสุทธิ 2Q63 989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9%QoQและ0.3%YoY โดยมีรายได้จากโรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 12 โครงการที่เต็มไตรมาส เทียบกับกลุ่ม GPM 11 โครงการ โดยในกลุ่ม SPP สามารถขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. ได้สูงขึ้น 14.1%YoYเป็นเพราะในช่วง 2Q62 มีการปรับขนาดสายส่ง 500 กิโลโวลต์ รวมถึงในงวดนี้มีความต้องการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมหลังคลาย lock downในช่วงเดือนมิ.ย. 63 เป็นต้นมา

ล่าสุดได้มีแผนเพิ่มทุน 1,066.65 ล้านหุ้น สัดส่วนอยู่ที่ 10:1 คาดว่าจะระดมทุนได้ราว 3 หมื่นล้านบาทรองรับการขยายลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่และโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆรวมถึงช่วยเพิ่มศักยภาพการลงทุนได้เพิ่มอีก 1.1 แสนล้านบาทในช่วง 4-5 ปีข้างหน้าซึ่งการลงทุนใหม่และโครงการลงทุนที่มีอยู่ในปัจจุบันทำให้มั่นใจว่าเบื้องต้นกำไรเติบโตต่อเนื่องจนถึงปี65ทำให้ D/Eกลับมาอยู่ในระดับ 1.7-1.8 เท่าโดยจะนำเงินเพิ่มทุนส่วนหนึ่งไปใช้รองรับการเข้าซื้อหุ้น50% ในโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาด 464.8 MW ในเยอรมนีซึ่ง COD แล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4Q63 และจะสร้างกำไรเข้ามาราว 1.5-2.0 พันล้านบาท/ปีโดยมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ราว 10-15%

ปัจจุบันGULF มีกำลังผลิตติดตั้งในมือรวม 7,976 MW ใน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทยเวียดนาม เยอรมนี และ โอมาน โดยเป็นกำลังผลิตที่เดินเครื่องแล้ว 6,409 MWและจะเพิ่มเป็น 8,000 MW ในปี 64 และเพิ่มเป็น 10,000 MW ในปี 65ขณะที่บริษัทยังให้ความสนใจศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำในลาว3 โครงการ กำลังผลิตรวมกว่า 2,000 MW คาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ภายในปี 64

แนะนำ “เคาะ” ครับ แท่งเทียนแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบและมีแนวโน้มปรับตัวลงทดสอบแนวรับ คาดมีโอกาสที่จะจบรูปแบบการปรับตัวV-Shapeกลับหัว แนวรับสำคัญรอบการปรับทดสอบ 31.00/30.00 เป็นจุดพิจารณาหลัก แนวต้านSMA10วันทำหน้าที่เส้นแนวต้านขาลง 32.00 ผ่านยืนเป็นBuy Sigการเปลี่ยนแนวโน้ม

คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่มเมื่อยืนเหนือ 32 ได้มั่นคงเป็นBuy Sig

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 31.00/30.00 ไม่ควรต่ำกว่า