พื้นฐานเปลี่ยน มูลค่าย่อมเปลี่ยนตาม

ภาพของตลาดหุ้นไทยยังลุ่มๆดอนๆ หลังดัชนีหลุดแนวรับสำคัญ 1,300 จุด ที่มาจากแรงกดดันเฉพาะตัว ทั้งเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง การชุมนุมใหญ่ของนักศึกษาในสุดสัปดาห์นี้จะบานปลายมีเหตุแทรกซ้อนหรือไม่ และการที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีคลังคนใหม่เข้ามาดูแลเรื่องเศรษฐกิจ รวมไปถึงงบประมาณประจำปี 2564 อาจจะมีปัญหาเบิกจ่ายไม่ทันในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ ล้วนเป็นปัจจัยเข้ามาสร้างแรงกดดันตลาด

ทั้งหมดนี้ทำให้กระทบต่อความเชื่อมั่นและบรรยากาศของการลงทุน การปรับพอร์ต ถือเงินสดเพิ่มขึ้น เพื่อบริหารความเสี่ยงของการลงทุนในตลาดหุ้น นอกจากนี้ยังขาดปัจจัยที่เป็นแรงขับเคลื่อนใหม่เข้า ปัจจัยลบยังไม่แน่นอนคลุมเครือไม่ชัดเจน ทิศทางตลาดหุ้นไทยจึงยังดูซึมๆ ขาดความคึกคักอยู่ในตอนนี้

เมื่อพื้นฐานเปลี่ยน มูลค่าย่อมเปลี่ยนตาม อย่างในกรณีของหุ้น TASCO ที่ราคาร่วงลงติดฟลอร์ และเป็นราคาเดียวกันตั้งแต่เปิดตลาดจนปิดตลาด มันเกิดอะไรขึ้นกับหุ้น TASCO ทั้งนี้TASCO แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ได้ยกเลิกการซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซูเอลา หลังสหรัฐร้องขอ และหากไม่ปฏิบัติตามอาจถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐ ส่งผลให้บริษัทต้องหยุดซื้อน้ำมันดิบตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป

ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ TASCO จำเป็นต้องปิดโรงกลั่นในประเทศมาเลเซีย เนื่องจากไม่สามารถสั่งซื้อน้ำมันจากประเทศเวเนซูเอลาได้ ปัจจุบัน TASCO มียอดขายยางมะตอยจากโรงกลั่นที่ประเทศมาเลเซีย คิดเป็นสัดส่วน 50% ของปริมาณยางมะตอยที่ขายได้ในแต่ละปี ซึ่งหากมีการปิดโรงกลั่นดังกล่าว ก็จะส่งผลกระทบกับโครงสร้างรายได้ของ TASCO อย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหาก TASCO สามารถหาแหล่งน้ำมันดิบมาทดแทนการนำเข้าจากประเทศเวเนซูเอลา ก็ไม่สามารถมั่นใจว่าจะยังรักษาอัตราการผลิตและอัตรากำไรเอาไว้ได้เช่นเดิมหรือไม่ เนื่องจากโรงกลั่นที่ประเทศมาเลเซียถูกออกแบบมาพิเศษให้สามารถกลั่นน้ำมันดิบจากเวเนซูเอลาให้ได้ยางมะตอยในอัตราที่สูง ซึ่งไม่แน่ใจว่าน้ำมันดิบจากแหล่งอื่นจะมีอัตราผลิตยางมะตอยได้สูงอย่างเวเนซูเอลาได้หรือไม่

ทั้ง 2 กรณี ไม่ว่าจะต้องปิดโรงกลั่นในมาเลเซียเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ หรือสามารถหาแหล่งน้ำมันดิบเข้ามาทดแทนจากเวเนซูเอลาได้ก็ตาม ผลผลิตยางมะตอยที่ต่ำกว่า รวมถึงราคาที่แพงกว่าจะผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจให้พื้นฐานเกิดการเปลี่ยนแปลงไปทั้งรายได้และกำไรของ TASCO อย่างแน่นอน นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังมีการปรับราคาเป้าหมายลงกันถ้วนหน้า พร้อมยังแนะนำให้ขาย และให้หลีกเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อน เพราะสถานการณ์ยังไม่ชัดเจนถือว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ทั้งๆที่เมื่อเร็วๆนี้ยังคาดหวังถึงแนวโน้มการเติบโตที่สดใสของ TASCO กันอยู่เลย อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามดูถึงการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ของ TASCO จะบรรเทาผลกระทบได้มากน้อยแค่ไหน

สุดท้ายด้วยบรรยากาศการลงทุน รวมถึงความเชื่อมั่นนักลงทุนที่นับวันจะถดถอยลง ดูได้จากวอลุ่มการซื้อขายที่เบาบาง และเป็นวอลุ่มของการขายมากกว่าซื้อ แสดงว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจกับทิศทางของตลาดในเชิงบวก ยังกล้าๆกลัวๆ การเก็งกำไรจะเกิดขึ้นในกรอบขึ้นขาย ลงซื้อ โชคดีครับ