16 กันยายน 2020 เวลา 12:34 น.
เปิดต้นสัปดาห์ 14-15 ก.ย. 63 ก็มีหุ้นให้จับตาทันทีกับ TASCO หรือ บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ผู้ผลิตยางมะตอยรายใหญ่ของไทย ที่ราคาหุ้นร่วงจาก 23.90 บาทในวันศุกร์ สู่ระดับ 20.40 บาทในวันจันทร์ และ 17.40 บาทในวันอังคาร เท่ากับว่าราคาหุ้นดิ่งเกือบ -15% หรือติดฟลอร์ตั้งแต่เปิดตลาดทั้ง 2 วันเลย ซึ่งวันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่า เกิดอะไรขึ้นกับ TASCO และนักลงทุนควรทำอย่างไรหากมี TASCO ในพอร์ตหุ้น
สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาหุ้น TASCO แตะฟลอร์ 2 วันติดต่อกัน มีจุดเริ่มต้นจากการที่สหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรน้ำมันดิบจากเวเนซูเอลา โดยมีผล ณ สิ้นเดือน พ.ย. 63 จึงได้ยื่นคำร้องจาก US State Department ขอให้ TASCO หยุดการซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซูเอลา หากไม่ปฏิบัติตาม TASCO อาจถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯไปด้วย
ด้วยเหตุนี้ TASCO จึงจำเป็นต้องปิดโรงกลั่นใน Kemaman ประเทศมาเลเซียเป็นการชั่วคราว จนกว่าการคว่ำบาตรระหว่างสหรัฐฯต่อเวเนซูเอลาจะสิ้นสุดลง โดยโรงกลั่นในมาเลเซียดังกล่าว ถูกออกแบบมาเพื่อการกลั่นน้ำมันดิบจากเวเนซูเอลา และมีการใช้น้ำมันดิบจากแหล่งดังกล่าวประมาณ 90% ของน้ำมันดิบที่ใช้ทั้งหมด
ผลกระทบสำคัญจากเหตุการณ์นี้ คือ ปริมาณการผลิต และรายได้ของ TASCO มีแนวโน้มลดลง เนื่องจาก TASCO นำผลผลิตจากโรงกลั่นในมาเลเซีย ไปผลิตยางมะตอยส่งขายให้ลูกค้า คิดเป็นสัดส่วนถึง 50% ของผลิตภัณฑ์ยางมะตอยทั้งหมดของบริษัท หมายความว่า การปิดโรงกลั่นครั้งนี้ อาจทำให้ปริมาณการผลิตของ TASCO หายไปครึ่งนึงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า และมีแนวโน้มจะกระทบกับปริมาณขายที่อาจลดลง เมื่อปริมาณขายลดลง ย่อมกระทบต่อรายได้และกำไรสุทธิให้ลดลงตามมา
ทั้งนี้ โอกาสที่พื้นฐานของ TASCO จะกลับมาดีได้ มีอยู่ 2 เงื่อนไข ได้แก่ (1) บริษัทสามารถหาน้ำมันดิบจากแหล่งอื่น เพื่อทดแทน Kemaman ที่ถูกปิดตัวชั่วคราว หรือ (2) รอให้สหรัฐฯยกเลิกการคว่ำบาตรต่อเวเนซูเอลา ในมุมมองของเรา ตัวเลือกที่ (1) อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากการดำเนินงานของ TASCO จะกลับมาได้เร็วกว่า แต่ต้องใช้เวลามากพอในการศึกษาความเป็นไปได้ และติดต่อกับ Supplier ที่ขายน้ำมันดิบ
เหตุผลที่เรากล่าวไปข้างต้น ทำให้ราคาหุ้น TASCO รูดลงมาแตะฟลอร์ 2 วันติดตั้งแต่เปิดตลาด โดยไม่มีราคา Bid มารอรับเลย นั่นหมายความว่า นักลงทุนที่ถือหุ้น TASCO นั้น มีโอกาสจะขายได้ก็ต่อเมื่อมีออเดอร์ซื้อเข้ามาในฝั่ง Offer หรือแม้แต่นักลงทุนที่ต้องการใช้ Block Trade หรือ Single Stock Futures เพื่อทำกำไรฝั่ง Short ก็มีโอกาสที่จะไม่ได้สถานะ เนื่องจากไม่มีราคา Bid มารับนั่นเอง
แล้วเรามีคำแนะนำอย่างไร? สำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้น TASCO เราแนะนำให้พักก่อน ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะแก่การซื้อ เนื่องจากพื้นฐานของบริษัทมีโอกาสเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะปริมาณการผลิตลดลงถึง 50% ทำให้รายได้และกำไรสุทธิมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะกระทบต่ออัตราส่วนผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ต่ำลงไปด้วย (บริษัทที่น่าลงทุนควรมีอัตราส่วน ROE สูงและสม่ำเสมอ)
ส่วนนักลงทุนสายเก็งกำไร เราแนะนำให้ Wait & See ในฝั่ง Short เนื่องจากราคาที่ร่วงติดฟลอร์ 2 วันต่อเนื่อง และไม่มี Bid มารอรับ ทำให้การเข้าสถานะทำได้ยาก ดังนั้น หากใครกำลังเล็งจะเข้าสถานะ TASCO อยู่ เราแนะนำให้เฝ้าไว้ก่อน โดยมีแนวรับใกล้ที่สุด 14.90 บาท และแนวต้านใกล้ๆ 20 บาท
ทั้งนี้ การเข้าสถานะใน TASCO จะต้องรอให้ความผันผวนเบาลงก่อน หากเข้าสถานได้ จะต้องมี Stop Loss ที่ชัดเจนไม่ว่านักลงทุนจะเล่นในฝั่ง Long หรือ Short ด้วย Single Stock Futures และติดตามข่าวสารจากบริษัทเกี่ยวกับประเด็นการปิดโรงกลั่นในมาเลเซีย เพื่อให้เรากำหนดทิศทางการลงทุนและเก็งกำไรได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
หมายเหตุ : ราคาหุ้น ณ วันที่ 16 ก.ย. 63
ที่มา : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม