> SET > PLANB

17 กันยายน 2020 เวลา 08:45 น.

PLANBคว้าสิทธิฟุตบอล โบรกปรับเป้าแตะ6.7บ.

ทันหุ้น - PLANB คว้าสิทธิในการบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลภายใต้สัญญาใหม่ 8 ปี โบรกมองบวกการันตีรายได้ไม่น้อยกว่า 200ล้านบาทต่อปี เชื่อกำไรสุทธิ 120 ล้านบาทต่อปี ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น "ซื้อ" ราคาเหมาะสมปี 2564 ใหม่ ที่ 6.70บาท


ดร.พินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ กรรมการผู้จัดการและกรรมการ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ) ได้ประกาศเปิดรับสมัครข้อเสนอเพื่อคัดเลือกตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์อย่างเป็นทางการของสมาคม ประจำปี พ.ศ. 2564-2571 นั้น บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า บริษัทเป็นผู้ชนะการยื่นข้อเสนอในการคัดเลือกตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ


ดังรายละเอียดปรากฏตาม “ประกาศสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เรื่อง ผู้ชนะการยื่นข้อเสนอและลงนามสัญญาแต่งตั้งตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์อย่างเป็นทางการประจำปี พ.ศ. 2564-2571” ลงวันที่ 15กันยายน 2563 โดยส่งผลให้บริษัทได้รับสิทธิการจัดการด้านการขายและบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นระยะเวลาสัญญา 8 ปี ต่อเนื่องจากสัญญาฉบับปัจจุบันที่กำลังจะหมดลงในปี 2564ตามที่บริษัทเคยแจ้งสารสนเทศต่อนักลงทุนและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2559


**เพิ่มคำแนะนำ"ซื้อ"


บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า เบื้องต้นฝ่ายวิจัยได้มีการสอบถามทางบริษัทถึงรายละเอียดสัญญาฉบับใหม่ เงื่อนไขส่วนแบ่งรายได้ยังคงเหมือนสัญญาเดิมที่ 22.5%


ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงมีมุมมองเป็นผลบวกสำหรับการคว้าสิทธิสัมปทานดังกล่าวต่อเนื่องอีก 8 ปี ที่มากกว่าสัญญาเดิมที่ทำไว้เพียง 4 ปี โดยสิทธิดังกล่าวจะช่วยการันตีรายได้เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาทต่อปี และคิดเป็นกำไรสุทธิราว 120ล้านบาทต่อปี จากปัจจัยข้างต้นฝ่ายวิจัยจึงได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรตั้งแต่ปี 2565ใหม่เป็นเฉลี่ยปีละ 8-12%โดยรวมผลของการได้สัญญาดังกล่าวและมุมมองบวกต่อภาพธุรกิจที่ดีขึ้น


สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2563คาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวและกลับมามีกำไรได้อีกครั้งจากการเริ่มให้บริการสื่อโฆษณาใน 7-11 และโครงการป้ายรถเมล์อัจฉริยะ โดยคาดอัตราการใช้สื่อโฆษณาเฉลี่ยทั้งปี 2563ไว้ที่ 51% และกำไรปี 2563เท่ากับ 292 ล้านบาท ลดลง 61%เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน


ฝ่ายวิจัยได้มีการประเมินราคาเหมาะสมใหม่ ปี 2564 เท่ากับ 6.70บาท พร้อมปรับเพิ่มคำแนะนำจากขายเป็น "ซื้อ" เพราะมองว่าธุรกิจได้ผ่ายจุดต่ำสุดไปแล้ว แนวโน้มกำไรฟื้นตัวต่อเนื่องรายไตรมาสจากการขยายสื่อใหม่ และการฟื้นตัวของอัตราการใช้สื่อ โดยมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X