> SET > KTB

24 กันยายน 2020 เวลา 07:30 น.

ธปท.แจงแบงก์ยังไม่ผิด KTBยืดอกรับตรวจสอบ

ทันหุ้น – สู้โควิด  - ธปท.ยืนยันข้อมูล 4 แบงก์ใหญ่ติดลิสต์โอนเงินต้องสงสัย ยังไม่ถือว่าผิด ชี้เป็นรายงานธุรกรรมตามปกติที่ต้องส่งให้ตรวจสอบ ไม่สามารถตรวจสอบเองได้ ระบุเบื้องต้นข้อมูลไม่ได้หลุดออกมาจากหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐ แต่พร้อมร่วม ปปง.ตรวจสอบใกล้ชิด ด้าน “KTB” โชว์ความบริสุทธิ์ยืดอกพร้อมรับการตรวจสอบจากทุกหน่วยงานทั่วโลก


นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุ ธปท.ทำหน้าที่ตรวจสอบสถาบันการเงินให้มีกระบวนการป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (AML/CPTF)  อย่างรัดกุม ตั้งแต่ขั้นตอนการทำความรู้จักตัวตนลูกค้า (KYC/CDD) รวมถึงมีการตรวจสอบ และการรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กำหนดอย่างเคร่งครัด


สำหรับกรณีมีข่าวสถาบันการเงินของไทย 4 แห่ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการโอนเงินที่น่าสงสัยนั้น เบื้องต้นแหล่งที่มาของข้อมูลไม่ได้ออกมาจากเครือข่ายปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินแห่งสหรัฐอเมริกา (US Financial Crimes Enforcement Network หรือ FinCEN) หรือหน่วยงานทางการใดๆ ของสหรัฐอเมริกา ทาง ธปท. จึงอยู่ระหว่างรอการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


“เมื่อธนาคารพบการทำธุรกรรมที่น่าสงสัยเข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ที่ ปปง. กำหนด ก็มีหน้าที่ต้องรายงานต่อ ซึ่งเรียกว่ารายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย (Suspicious Transaction Report: STR) ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าทุกธุรกรรมทุกรายการจะเป็นธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย โดย ปปง. ก็มีหน้าที่ตรวจสอบว่าผิดหรือไม่”


นายจาตุรงค์ ยืนยันว่าระบบการตรวจสอบสถาบันการเงินของไทยสอดคล้องกับกระบวนการตรวจสอบในระดับสากล โดย ธปท. และ ปปง. ประสานงานกันเพื่อกำกับดูแลและป้องกันเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ซึ่งธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งก็ให้ความร่วมมือ และส่งรายงานเมื่อพบธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย โดยทั้ง ธปท. และ ปปง.ต้องดำเนินการตรวจสอบก่อนที่จะสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่


สำหรับบทลงโทษหากกระทำความผิดนั้น นายจาตุรงค์ ระบุว่า ยังไม่มีความผิดเกิดขึ้น


@ KTB พร้อมให้ตรวจสอบ


นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ระบุ กรณีที่มีชื่อของธนาคารกรุงไทยปรากฏเป็น 1 ใน 4 ธนาคารพาณิชย์ไทยที่มี "รายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย (SAR)" หลุดออกมาจาก หน่วยงานเครือข่ายสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินสหรัฐ หรือ FinCen ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงการคลังสหรัฐ ว่า ธนาคารกรุงไทย (KTB) มีจำนวนเงินโอนที่ต้องสงสัย 16.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 516.15 ล้านบาท นั้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ข้อมูลดังกล่าวเผยแพร่ออกมาจากหน่วยงานใด


เนื่องจากธนาคารเป็นหน่วยที่รับทำธุรกรรมทางการเงิน เมื่อมีธุรกรรมต้องสงสัยก็ต้องแจ้งไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในการตรวจสอบ โดยในส่วนของธนาคารได้มีการประสานงานความร่วมมือกับ ปปง. และ ธปท. อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือทุกหน่วยงานรัฐบาลเข้ามาตรวจสอบขั้นตอนการทำงานของธนาคาร


“เป็นข่าวที่ออกมาที่ยังไม่ได้ยืนยันเป็นทางการ เราอยู่ระหว่างตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูล ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เรารายงานไป แต่ไม่ได้ชี้ว่าผิด แค่เป็นกิจกรรมที่น่าสงสัย ซึ่งหน่วยเกี่ยวข้องคือ FinCEN จำเป็นต้องสืบสวนสอบสวนต่อไป เพราะเราทำตามกฎที่เราต้องรายงานเขาเพื่อที่จะเขาจะไปสืบต่อ ส่วนข้อมูลที่ปรากฏออกมาข้อมูลที่ออกมาจากส่วนไหน ได้รับอย่างไรเป็นทางการหรือไม่ ซึ่งเราเองก็อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่เราก็พร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐทั่วโลก ในการที่จะสืบสวนและตรวจสอบในธุรกรรมต้องสงสัยทั้งระบบ”

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X