> SET > THREL

24 กันยายน 2020 เวลา 19:45 น.

THREL รุกต่างประเทศ เบี้ยรับโต3%ต่อเนื่อง5ปี

ทันหุ้น - สู้โควิด - THREL ตั้งเป้าเบี้ยประกันโตเฉลี่ยปีละ 3% ต่อเนื่อง 5 ปี วางกลยุทธ์ปรับรูปแบบประกันให้สอดคล้องกับความต้องการผู้บริโภคทั้งในส่วนของแบบประกันชีวิต และประกันสุขภาพ ควบคู่ผนึกพันธมิตรทางธุรกิจรุกตลาดต่างประเทศ สร้าง New S-curve เผยเร่งพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มบุกออนไลน์ขยายฐานลูกค้ารายบุคคล ย้ำฐานะแข็งแกร่งหาก คปภ. ตรวจสอบมั่นใจจ่ายเงินปันผลงวดสิ้นปีได้ตามปกติ


นางสาวสิรินทร์ ธรรมอุปกรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายบัญชีการเงิน และนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL ระบุเบื้องต้นบริษัทยังคงตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยทั้งปี 2563 ขยายตัวที่ 3% เมื่อเทียบกับปี 2562 แม้ปัจจุบันภาพรวมการทำประกันชีวิตเริ่มชะลอตัวลง แต่ประชาชนยังให้ความสนใจในการทำประกันสุขภาพมากขึ้น บริษัทจึงเร่งพัฒนารูปแบบกรมธรรม์ที่ตอบสนองความต้องการเพื่อขายกรมธรรม์ได้มากขึ้น


ทั้งนี้มันใจว่าผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จะดีกว่าช่วงครึ่งแรกของปี จาก 3 ปัจจัยหนุน คือ 1.การเร่งปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ2. โครงการเร่งตั้งสำรองป้องกันความเสี่ยเบี้ยประกันระยะยาวสิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ดังนั้นการตั้งสำรองจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่การลงบัญชีงวดไตรมาส 2/2563 เป็นต้นไป และ 3.บริษัทยกเลิกสัญญาบางส่วนที่อาจส่งขาดทุน เช่นแบบประกันที่การันตีผลตอบแทนสูงๆไม่สอดคล้องกับภาวะดอกเบี้ยขาลงและอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ได้ทำการยกเลิกสัญญาเสร็จสิ้นตั้งแต่ปลายปี 2562

แผนโต 3%ต่อเนื่อง5ปี


ทั้งนี้บริษัทได้วางกลยุทธ์ 5 ปี ในการผลักดันเบี้ยเติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปี โดยจะเน้นขยายฐานในตลาดต่างประเทศเป็นหลักทั้งกลุ่มประเทศ CLMV (สปป.ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, และเมียนมา) ซึ่งบริษัทดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทได้รับประกันภัยต่อจากบริษัทประกันชีวิตใน สปป.ลาว แล้ว รวมถึงเริ่มมีรายได้จากบริษัท TKI Life Insurance Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทลูกใน สปป.ลาว


ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างติดต่อประกันงานกับกลุ่มบริษัทประกันชีวิตทั้งกัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งจะมีความชัดเจนในปี 2564 พร้อมกันนี้ยังมองหาโอกาสขยายฐานการตลาดเข้าไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์) อย่างต่อเนื่อง


ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการออกกรมธรรม์รูปใหม่โดยร่วมกับพันธมิตร เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในอนาคต และสามารถสนับสนุนการขายกรมธรรม์ให้กับบริษัทพันธมิตรได้อย่างดี ตามแผนการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจประกันชีวิตประเภทร่วมพัฒนา (Non-conventional Reinsurance) ให้สูงขึ้นเป็น 60% ภายในระยะเวลา 3 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 42 : 58 เมื่อเทียบกับธุรกิจประกันชีวิตประเภทดั้งเดิม (Conventional Reinsurance) รวมไปถึงการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุค New Normal และเป็นช่องทางให้บริษัทสามารถขยายฐานเข้าสู่กลุ่มลูกค้ารายบุคคลได้ในอนาคต


“การออกแบบผลิตภัณฑ์ก็จะมุ่งเน้นไปทางกรมธรรม์ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายมากขึ้น โดยบริษัทได้พยายามปรับปรุงรูปแบบกรมธรรม์ให้มีอัตราการเคลมอย่างเหมาะสม รวมถึงจับมือพันธมิตร คิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเจาะตลาดเข้าไปในกลุ่มประเทศ CLMV และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง”


ทั้งนี้ บริษัท มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลได้หากทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย คปภ.เข้ามาตรวจสอบและผ่านเกณฑ์ ก็สามารถจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดสิ้นปี 2563 ได้ตามปกติ


สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ มีรายได้สุทธิ 582 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) โดยมีเบี้ยประกันภัยต่อรับที่ 725 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของงานประกันชีวิตแบบร่วมพัฒนา (Non-Conventional) โดยเฉพาะสัญญาประกันสุขภาพที่เติบโต 11%ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับงวดไตรมาส 2/2563 ที่ 6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวมครึ่งปีแรก (1H63) ที่ 35 ล้านบาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X