ทันหุ้น –สู้โควิด –SF ส่งซิกไตรมาส 3/2563 ฟอร์มเด่น รับอานิสงส์รายได้ค่าเช่าได้เต็มไตรมาส หลังกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ ทุ่ม 2.6 พันล้านบาท ปรับปรุงพื้นที่เช่า-โครงการใหม่ เสริมแกร่งรับทรัพย์เพิ่ม ด้านโบรกเกอร์ ฟันธงผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แถมกำไรฟื้นเร็ว แนะสอย อนาคต 6.30 บาท

แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจของบริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF ถือว่าดีขึ้นต่อเนื่อง โดยทาง SF คาดผลงานในไตรมาส 3/2563น่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2/2563 เนื่องจากธุรกิจสามารถกลับมาเปิดให้บริการพื้นที่ศูนย์การค้าขนาดเล็ก (คอมมูนิตี้อลล์) ได้ตามปกติและสามารถรับรู้รายได้จากค่าเช่าได้เต็มเต็มไตรมาส นอกเหนือ จากส่วนแบ่งกำไรในบริษัทร่วมทุนในโครงการเมกะบางนาที่ขยายตัวมากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ จากประเด็นเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมามีผลให้พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป โดยประชาชนส่วนใหญ่ได้มีการหันมาใช้บริการคอมมูนิตี้มอลล์มากขึ้น หวังลดความหนาแน่นในการใช้บริการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดในอนาคต จึงทำให้คอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ ของ SF นั้นมีอัตราการเข้าใช้บริการเพิ่มสูงขึ้น

*ปีหน้าผลงานพลิกฟื้น

ด้านนายกิตตินันท์ สำรวจรวมผล ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน SF กล่าวว่า คาดแนวโน้มผลประกอบการปี 2564 น่าจะสามารถสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติและออกมาใกล้เคียงตัวเลขในปี 2562 ที่มีกำไรราว 2 พันล้านบาท เนื่องมองว่าน่าจะไม่มีปัจจัยกดดันธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องการล็อกดาวน์ และมองว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2564บริษัทน่าจะสามารถกลับมาปรับอัตราค่าเช่าเพิ่มเติมได้

ส่วนทิศทางผลงานในปี 2563 บริษัทประเมินว่าน่าจะอ่อนตัวราว 30% จากปีก่อน เพราะรายได้ค่าเช่าพื้นที่ปรับตัวลดลง หลังได้มีการหยุดให้บริการพื้นที่ศูนย์การค้าในช่วงที่ผ่านา อย่างไรก็ดี จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดพบว่า ศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงาน จำนวน 19 แห่ง คิดเป็นพื้นทึ่รวมทั้งหมด 4.31 แสนตารางเมตร แบ่งเป็น คอมมูนิตี้มอลล์ 18 แห่ง อยู่ที่ 2.3 แสนตารางเมตร และที่เหลือมาจากโครงการเมกะบางนา

*ทุ่ม 2.6พันล.ขยายพื้นที่เช่า

พร้อมกันนี้ บริษัทมีแนวคิดทุ่มงบประมาณ 2.6 พันล้านบาท สำรหับปรับปรุงพื้นที่โครงการเดิมและขยายพื้นที่เช่าใหม่เพิ่มเติม แบ่งเป็น การลงทุนคอมมูนิตี้มอลล์ "มาร์เก็ตเพลส กรุงเทพกรีฑา" พื้นที่เช่า 5,000 ตารางเมตร อยู่ที่ 150 ล้านบาท, โครงการมิ๊กยูสทองหล่อ ในรูปแบบพื้นที่เช่า 10,000ตารางเมตร และอาคารสำนักงาน อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการปรับปรุงและเพิ่มเติมส่วนต่างๆ ในโครงการเมกา บางนา อาทิ การสร้างจุดกลับรถใหม่, อาคารจอดรถ เป็นต้น หวังเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง SF ว่ามีมุมมองเป็นบวก เนื่องจากมองว่าธุรกิจได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 2/2563 ประกอบกับมองว่าทิศทางผลงานใครึ่งหลังปี 2563น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งแรกปีนี้ ผลมาจากโครงการเมกา บางนา ส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันกำไรหลักของ SF มากกว่า 80% มาจากโครงการดังกล่าว นอกเหนือ จากโครงการที่เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ จึงทำให้ทางฝ่ายวิเคราะห์ประเมินราคาเป้าหมายหุ้น SF ไว้ที่ระดับ 5.50 บาท รวมทั้งให้คำแนะนำ "ซื้อ"

อย่างไรก็ดี ในส่วนของนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น SF โดยมีราคาเป้าหมายที่ 6.30 บาท เนื่องจากการฟื้นตัวของโครงการเมกะ บางนา ที่ดีกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดไว้ ทำให้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน Mega Bangna ของ SF ขึ้น 58% จึงทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประมาณการกำไรของปี 2564 ไว้ที่ราว 919 ล้านบาท และขยับเพิ่มเป็น 1.1 พันล้านบาทในปี 2565

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1