> เคล็ดลับลงทุน > KUMWEL

28 กันยายน 2020 เวลา 14:56 น.

SNAPSHOT : KUMWEL

KUMWEL บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)


Company Background


บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับระบบต่อลงดิน (Grounding System) ระบบป้องกันฟ้าผ่า (Lightning Protection System) ระบบป้องกันเสิร์จ:ไฟกระโชก (Surge Protection System) ระบบตรวจจับและเตือนภัยฟ้าผ่า (Lightning Detection & Warning System) อย่างครบวงจรตามมาตรฐานสากลภายใต้ตราสินค้า “Kumwell” เพื่อความมั่นคง (Stability) และปลอดภัย (Safety) ของระบบไฟฟ้าในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับลูกค้าทุกภาคส่วน


Key Development of Company


1999 จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เค.เอ็ม.แอล.เทคโนโลยี จำกัด (KML Techno) (ปัจจุบันคือ บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (KUMWEL)) ด้วยทุนจดทะเบียนแรกเริ่ม 1 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 10,000หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท

2008 จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท คัมเวล จำกัด (KW) มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายแม่พิมพ์กราไฟต์ (Graphite Mold) ให้แก่บริษัทแต่เพียงผู้เดียว (ปัจจุบันบริษัทถือหุ้น 99.99%)

2012 จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท คัมเวล-นาวแคสท์ จำกัด (KWN) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เช่าเสาสัญญาณตรวจจับฟ้าผ่า ให้แก่บริษัทแต่เพียงผู้เดียว (ปัจจุบันบริษัทถือหุ้น 99.99%)

2018 วันที่ 17 พฤษภาคม 2018เปลี่ยนชื่อจากบริษัท เค.เอ็ม.แอล.เทคโนโลยี จำกัด (KML Techno) เป็น บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด

2019 วันที่ 13 มีนาคม 2019อนุมัติการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดและเปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” และเมื่อวันที่ 1สิงหาคม 2019 หลักทรัพย์ KUMWEL ได้เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก (First Day Trade)


Business Plan


• มุ่งเน้นการพัฒนาระบบการจัดการป้องกันฟ้าผ่าอัจฉริยะและการเตือนภัยฟ้าผ่า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ

• สินค้าของบริษัททุกประเภทมีคุณภาพสูงในระดับสากลผ่านการทดสอบ และได้รับใบรับรองคุณภาพจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล/นานาชาติ

• มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อตอบสนองความมั่นคง และปลอดภัยให้กับสังคม และธุรกิจทุกภาคส่วน


Investment Highlight


• พัฒนาสินค้านวัตกรรม (innovation base) อาทิระบบการจัดการป้องกันฟ้าผ่าอัจฉริยะ(Smart Lightning Management System) ซึ่งเป็นระบบที่ป้องกันและแจ้งเตือนฟ้าผ่าแบบที่สมบูรณ์ที่สุดในปัจจุบัน นอกเหนือจากธุรกิจเดิมที่เน้นผลิตและจำหน่ายสินค้า (product base) ที่เกี่ยวข้องกับการต่อลงดินและป้องกันฟ้าผ่า ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

• ปรับปรุงกระบวนการผลิตสินค้าและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อบริหารต้นทุนให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถเชิงแข่งขันของบริษัทให้ทัดเทียมหรือเหนือกว่าคู่แข่งในระดับสากล

• วิจัยและพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นสินค้าหลัก และตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ ในขณะเดียวกันเป็นการเพิ่มโอกาสในอนาคตให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

• ดำเนินการพัฒนาห้องปฏิบัติการแบบครบวงจร เพื่อทดสอบผลิตภัณฑ์ในกลุ่มระบบป้องกันฟ้าผ่า ให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากขึ้น เพื่อให้คุณภาพของสินค้าเป็นไปตามมาตรฐาน และสร้างความเชื่อมั่นต่อสินค้าของบริษัท ล่าสุดห้องทดสอบอุปกรณ์ต่อลงดินและป้องกันฟ้าผ่าของบริษัท ได้รับการรับรองให้เป็นห้องทดสอบสาขาอิเล็กทรอนิกส์ที่ผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก.17025 (ISO/IEC 17025) แห่งเดียวในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งช่วยลดต้นทุนและลดวงจรการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สั้นลง

• เริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตสินค้าในกลุ่มหลักดิน (Ground Rod) โดยปรับปรุงกระบวนการผลิตและเลือกเทคโนโลยีการผลิตที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 300,000 เส้นต่อปี คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2564

• ลงนามบันทึกความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์รวมถึงเทคโนโลยีร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) เพี่อสนับสนุนงานด้านความมั่นคงของระบบส่งและระบบผลิตไฟฟ้า รองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และตอบสนองนโยบายโครงการ Digital Plant รวมไปถึงงานบำรุงรักษา ด้วยการนำองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรม เทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้ามาสนับสนุนขีดความสามารถในการแข่งขัน


KUMWELชูโมเดลDigital Plant

อัพกำลังผลิต4เท่า-ชูเป้าโต20%


ทันหุ้น สู้โควิด-KUMWEL ชูโมเดล Digital Plantระดมความรู้ปั้นสินค้านวัตกรรม บิ๊กบอส “บุญศักดิ์ เกียรติจรูญเลิศ” ตั้งเป้ารายได้ปี 64 โต 20% เพิ่มกำลังผลิตโปรเจ็กต์หลัก 4 เท่า เดินเกมลดต้นทุน พร้อมวางงบลงทุน 5% ของรายได้รวม พัฒนา วิจัยงานใหม่


นายบุญศักดิ์ เกียรติจรูญเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KUMWEL ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับระบบต่อลงดิน, ระบบป้องกันฟ้าผ่า, ระบบป้องกันเสิร์จ, ระบบตรวจจับและแจ้งเตือนฟ้าผ่า และนวัตกรรม ภายใต้ตราสินค้า "Kumwell" หรือ KUMWEL เปิดเผยว่า บริษัทจะใช้โมเดลนวัตกรรม Digital Plant ที่ร่วมกันกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปเจรจาและยอดธุรกิจในปีหน้า หรือปี 2564 ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ลงนาม MOU ด้านการวิจัยการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับ กฟผ. เพื่อระดมองค์ความรู้ความสามารถในการวิจัยและพัฒนาด้านนวัตกรรม


นวัตกรรมใหม่


สำหรับโครงการ Digital Plant จะเป็นการใช้องค์ความรู้ และการพัฒนาวิจัยระบบป้องกันฟ้าผ่าแบบใหม่ อาทิ ระบบการจัดการป้องกันฟ้าผ่าอัจฉริยะ (Smart Lightning Management System), ระบบแจ้งเตือนฟ้าผ่าความแม่นยำสูงอัจฉริยะ (Smart High Precision Lightning Warning System)เพื่อความปลอดภัยของการปฏิบัติงานในที่โล่งแจ้ง, ระบบตรวจจับความถี่คลื่นเสียงด้วยออฟติกไฟเบอร์ (Distributed Acoustic Sensing: DAS) เพื่อใช้ในการตรวจจับผู้บุกรุก / ระบบตรวจจับอุณหภูมิของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบผลิตและจำหน่ายด้วยออฟติกไฟเบอร์ (Distributed Temperature Sensing: DTS) เพื่อทดแทนกำลังคน


นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรม ระบบโอโซน (Ozone System) สำหรับระบบหล่อเย็น ทดแทนการใช้สารเคมีในปริมาณมหาศาลสำหรับการป้องกันการเกิด Biocide และ ยับยั้งการเกิดตะกรัน, นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีกราฟีน เพื่อเพิ่มสมรรถนะการนำไฟฟ้า, ระบบป้องกันอันตรายจากการอาร์คในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า (Arc Protection System), การศึกษาผลกระทบสนามแม่เหล็กไฟฟ้าต่อการปฏิบัติงาน (The study of Bio-effect on electromagnetic field: EMF) เป็นต้น


ทั้งนี้บริษัทจะเน้นโมเดลการดำเนินธุรกิจปี 2564 โดยการใช้ Digital Plantเป็นแผนการขยายธุรกิจเพื่อขยายฐานการเติบโต แต่การเจรจาและหาฐานลูกค้าเพิ่ม อาจไม่นัก เพราะต้องทำให้ลูกค้าเห็นภาพธุรกิจที่ชัดเจนก่อน ซึ่งหากการร่วมมือกับ กฟผ. ประสบความสำเร็จ คาดจะเป็นโครงการต้นแบบสำหรับการต่อยอดธุรกิจในอนาคต


ดันรายได้โต20%


บริษัทคาดรายได้ปี 2564 จะเติบโตประมาณ 20% ต่อจากปี2563  สำหรับทิศทางการขยายธุรกิจบริษัทมีวิธีการดำเนินงานอยู่ 2 แนวทาง คือ 1. พัฒนาและปรับปรุงสินค้าเดิมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และพยายามหาวิธีลดต้นทุนการผลิต เช่น การเพิ่มระบบออเมชั่น เป็นต้น หากบริษัทสามารถลดต้นทุนได้จริง คาดจะเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในการขายสินค้าไปสู่ตลาดโลกได้ง่ายขึ้น


นอกจากนี้บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มผงเชื่อมทองแดงอีก 4 เท่าตัว เพราะกลุ่มผงเชื่อมทองแดงถือเป็นโปรเจ็กต์หลักในการขายสินค้าของบริษัทเช่นกัน และ 2.การก่อสร้างโรงงานสำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มหลักดิน (Ground Rod) ที่โรงงานแห่งใหม่ในอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี โดยคาดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2564 ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจที่บริษัทได้วางไว้หลังเข้ามาจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์


นายบุญศักดิ์ กล่าวต่อว่า บริษัทจะพัฒนา วิจัยสินค้าใหม่ เพื่อให้ตรงกับความต้องการผู้บริโภคมากขึ้น โดยคาดจะใช้งบลงทุนประมาณ 5% ของรายได้รวมทั้งหมด จากที่ผ่านมาบริษัทใช้เงินอยู่ที่เพียง 3% พร้อมกันนี้บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เดิมบริษัทวางเป้าการเติบโตไว้ที่ระดับ 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 437.97 ล้านบาท เพราะบริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากการทำ Innovation หรือสินค้านวัตกรรมต้องเดินทางไปติดตั้งเเละดำเนินงาน ทำให้เกิดความล่าช้ากว่าแผน อนึ่ง 6 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้วที่ 214.15 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 22.91 ล้านบาท



จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X