> SET > EP

28 กันยายน 2020 เวลา 18:37 น.

EP ขายโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น 3 โครงการ มูลค่ารวม 1.99 พันลบ.

ทันหุ้น-สู้โควิด : บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ EP แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้บริษัท  EP Group (HK) Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม ดำเนินการขายโครงการโรงไฟฟ้าประเทศญี่ปุ่น รวม 2 โครงการ ประกอบด้วยโครงการ  Kurihara 1 จํานวน 9.52 เมกะวัตต์ ปัจจุบันดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2561 ในอัตรารับซื้อไฟฟ้าที่ 40 เยนต่อหน่วยเป็นเวลา 20 ปี โดยมีมูลค่าซื้อขายโครงการ 2,254.50 ล้านเยน หรือประมาณ 665.08 ล้านบาท 


โครงการที่ 2 ได้แก่ โครงการ Kurihara 2 จํานวน 12.24 เมกะวัตต์ ปัจจุบันดำเนินการจ่ยไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2562 อัตรารับซื้อไฟฟ้าที่ราคา 36 เยนต่อหน่วย เป็นเวลา 20 ปี  โดยมีมูลค่าซื้อขายโครงการ 2,727.44 ล้านเยน หรือประมาณ 804.59 ล้านบาท 


นอกจากนี้ได้อนุมัติให้บริษัท เอ็ปโก้ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม ขายโครงการโรงไฟฟ้าประเทศญี่ปุ่น 1 โครงการได้แก่ โครงการ  Kyoto ขนาดกําลังการผลิต 9.99 เมกะวัตต์ ปัจจุบันดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2559 โดยมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าที่ราคา 32 เยนต่อหน่วยเป็นเวลา 20 ปี ซึ่งมีมูลค่าซื้อขายโครงการ 1,769.69 ล้านเยน หรือประมาณ 522.06 ล้านบาท 


ทั้งนี้มูลค่าสินทรัพย์ที่จำหน่ายไปทั้ง 3 โครงการโดยประมาณอยู่ที่ 6,751.63 ล้านเยน หรือประมาณ 1,991.73 ล้านบาท การขายโครงการดังกล่าว จะทำให้บริษัทมีเงินสดรับเพิ่มขึ้น และ/หรือมีเงินทุนเพียงพอเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ การลงทุนในอนาคต ที่ให้ผลตอบแทนที่มากกว่า และ/หรือ ชำระคืนเงินกู้ของบริษัท เพื่อลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัท และจะส่งผลให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง และผลดำเนินงานที่ดีขึ้น 


สาเหตุที่ขายโครงการดังกล่าว เพราะราคาขายทั้ง 3 โครงการนี้ ผู้ซื้อได้เสนอราคาโดยมี Required Rate of Equity Return (RRER) ที่ต่ำกว่าอัตราที่บริษัทใช้ในการลงทุนโครงการต่างๆ มาก กล่าวคือราคาเสนอซื้อใช้ RRER ที่ประมาณ 5.16% ในขณะที่บริษัทในการลงทุนใดๆ จะอยู่ที่ประมาณ 12% ขึ้นไป (ซึงจะคิดเป็น NPV ประมาณ 1,111.28 ล้านบาท บริษัทฯจึงได้รับกําไรส่วนเกิน (Premium) จากการขายโครงการนี้ มากกว่าการถือโครงการไว้จนหมดอายุสัญญา PPA


นอกจากนี้บริษัทสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะอัตราภาษีในประเทศญี่ปุ่น ที่มีการเรียกเก็บในอัตราที่สูงและมีภาษีหลายประเภท บริษัทฯกําลังอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังลมที่ประเทศเวียดนาม ซึงจะให้ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (Equity IRR) ประมาณ 20-25% ซึงสูงกว่า RRER ที่บริษัทฯตั้งขั้นต่ำไว้ค่อนข้างมาก การขายทั้ง 3 โครงการ จะทําให้บริษัทฯมีสภาพคล่องเพียงพอทีจะลงทุนในโครงการดังกล่าวได้


และการลงทุนในประเทศญี่ปุ่นมีผลตอบแทนของโครงการ (IRR) ค่อนข้างต่ำ ดังนั้นการลงทุนใดๆ จึงต้องกู้ยืมเงินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมากในสัดส่วนที่สูง เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุนส่วนของ Equity จึงทําให้ที่ผ่านมาบริษัทฯต้องแบกรับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(Debt to Equity Ratio) ที่สูงกว่า 3 ต่อ 1 มาโดยตลอด การจําหน่ายเงินลงทุนในครั้งนี้  จึงทําให้บริษัทฯสามารถลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลงมาเหลือเพียง 1.47 เท่านั้น 


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X