ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงจนปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 2563 ที่เพียง 10.7 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 0.7 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และ PBV อยู่ที่เพียง 1.3 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่เกือบ 2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) พร้อมด้วยคาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2563 ที่ 4.7% (เทียบกับอัตราผลตอบแทนจากเงิน ปันผลของตลาดที่ 3.1%) ได้สะท้อนคาดการณ์กำไรหลักที่อ่อนตัวลง QoQในไตรมาส 4/63 ไปแล้ว แม้ว่ากำไรหลักจะปรับตัวลดลง QoQแต่กำไรหลักมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY ในไตรมาส 3-4/63 แนวโน้มกำไรที่ปรับตัวดีขึ้น YoY และมูลค่าหุ้นที่ยังถูกเป็นจุดเข้าซื้อที่น่าสนใจแนะนำซื้อ SCC ที่ราคาเป้าหมาย 430 บาท

คาดกำไรหลักขยายตัว YoY ในไตรมาส 4/63กำไรหลักของ SCC มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY ในไตรมาส 4/63 หนุนโดยกำไรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในธุรกิจ CBM (คาดภาครัฐจะเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณ), ธุรกิจแพคเกจจิ้ง (ส่วนแบ่งที่เพิ่มขึ้นจาก Fajar Paper และ Visy ประเทศไทย, และอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร&เครื่องดื่ม และ e-commerce) และธุรกิจเคมิคอลส์ (ส่วนต่างราคาขยายตัวขึ้นในผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ แม้ว่าปริมาณขายจะลดลงเนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน) อย่างไรก็ตามส่วนต่างราคาปิโตรเคมี และ ปริมาณขายที่แข็งแกร่งกว่าคาดจะเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรไตรมาส 4/63