ผลการดำเนินงาน 2Q63 อยู่ที่ 72 ล้านบาท ลดลง 29.4% YoY จากรายได้ที่ลดลงกว่า 5.5% YoY จากผลของการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากมาตรการล๊อคดาวน์ทำให้แรงงานต่างชาติไม่สามารถเข้ามาทำงานได้ ทำให้ไม่สามารถดำเนินงานและส่งมอบงานได้ตามแผนการเดิม ด้านอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.4% เนื่องจากสัดส่วนงานที่มีอัตรากำไรสูงลดลง และอัตราการใช้ประโยชน์ที่ลดลง

แนวโน้มในครึ่งปีหลังคาดฟื้นตัวจากการคลายมาตรการล๊อคดาวน์ทำให้แรงงานกลับเข้ามาทำงานได้มากขึ้น อีกทั้งตั้งแต่ 4Q63 นี้บริษัทจะเร่งส่งมอบงานเก่า เพื่อรับรู้รายได้ให้เร็วที่สุด และเตรียมพร้อมเริ่มงานใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูง รวมถึงมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการประมูลอีก มูลค่ากว่า 4-5 พันล้านบาท คาดจะได้งานไม่ต่ำกว่า 30% ของทั้งหมด ซึ่งในเดือนนี้บริษัทไดรับงานใหม่ 2 โครงการโดยได้แก่1.โครงการ ทองหล่อ 4 ของ บมจ. สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ (SF) ลักษณะงาน เสาเข็มเจาะแบบกลม ระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และกำแพงกันดินระบบ ไดอาแฟรมวอลล์ (Bored Pile and Diaphragm Wall) ลักษณะของสัญญาว่าจ้าง รวมค่าวัสดุ2.โครงการ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ของบมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ลักษณะงาน เสาเข็มเจาะแบบเหลี่ยม (Barrettes) ลักษณะของสัญญาว่าจ้าง ไม่รวมค่าวัสดุโดยทั้ง 2 โครงการนี้จะสามารถเริ่มดำเนินงานได้ปลายเดือนตุลาคมนี้

ด้านแนวโน้มในปี 2564 ดว่าจะมีงานภาครัฐออกมาจำนวนมากและเป็นงานขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนต่อขยาย และงานรถไฟฟ้าความเร็วสูง 3 สนามบิน ทำให้คาดว่าแนวโน้มในปี 2564 จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิคแนวโน้มการปรับตัวลงรูปแบบV-Shapeกลับหัวมีแนวรับจบรูปแบบสำคัญ 5.00/4.94 เป็นจุดพิจารณาสำคัญ คาดมีโอกาสเกิดDouble Bottom แนวต้านระยะสั้นSMA10วันที่ 5.15-5.20 ผ่านยืนมั่นคงเป็นBuy Sig แนวต้านหลักจุดสูงรอบก่อนหน้า 5.40 การผ่านยืนควรมีVolumeเพิ่มขึ้นชี้นำ และจะกลับเป็นรูปแบบWขาขึ้น

คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือ เพิ่มการลงทุน / แนวต้าน 5.20/5.40 มีโอกาสทดสอบ

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 5.00/4.94 ไม่ควรต่ำกว่า