16 ตุลาคม 2020 เวลา 18:14 น.
ทันหุ้น-สู้โควิด: บลจ.ไทยพาณิชย์ เสิร์ฟนักลงทุน RMF-SSF ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ ทั้งกองทุนไทยและต่างประเทศ เพื่อวางแผนภาษีในปลายปี
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ไทยพาณิชย์ ยังคงแนะนำให้ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนประเภท Super Savings (ชนิดเพื่อการออม) เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยกองทุนรวม RMF ใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท หรือไม่เกิน 15% ของรายได้
และกองทุน SSF ได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินที่เสียภาษีแต่ต้องไม่เกิน 200,000 บาท โดยเมื่อรวมกับการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ ได้แก่ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญแล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท เพื่อเป็นการสร้างทางเลือกการลงทุนที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ และเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละบุคคล
โดยในส่วนของ บลจ.ไทยพาณิชย์มีกองทุน RMF และ SSFให้เลือกลงทุนได้หลากหลายทุกประเภทสินทรัพย์ตามระดับความเสี่ยงของผู้ลงทุน ทั้งตราสารหนี้ หุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ รวมถึงกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือ อินฟราสตรัคเจอร์ เป็นต้น รวมกว่า 30 กองทุน
สำหรับนักลงทุนที่ยังคงสนใจลงทุนภายใต้นโยบาย LTF เดิม สามารถเลือกลงทุนในกองทุน SFF ได้ เช่น กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เซ็ท อินเด็กซ์ (ชนิดเพื่อการออม) (SCBLTSET-SSF) กองทุน SSF เดียวในประเทศไทยที่เน้นสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี SET Index และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต (ชนิดเพื่อการออม) (SCBLTT-SSF) ลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโตสูง และหุ้นที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ เป็นต้น
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ลงทุนในกลุ่มกองทุน RMF และ SSF ภายใต้การบริหารของบลจ.ไทยพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม - 30 ธันวาคม 2563 จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) คืนมูลค่าสูงสุด 1,000 บาทด้วย
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม