> mai > SFT

19 ตุลาคม 2020 เวลา 09:20 น.

SFTเคาะไอพีโอ3.80บ. ลั่นระฆังเทรด29ต.ค.นี้

ทันหุ้น - สู้โควิด - SFT เคาะราคาขายหุ้นไอพีโอ 3.80 บาทต่อหุ้น หลังสำรวจความต้องการซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบันมีอย่างล้นหลาม ดีเดย์เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 19-22 ตุลาคมนี้ คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้


นายคมกฤต มีคำสัตย์ กรรมการผู้จัดการ สายงานตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ SFT เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก(IPO) จำนวนไม่เกิน 120 ล้านหุ้น หลังสำรวจความต้องการซื้อ (Book Building) ของนักลงทุนสถาบัน พบว่า นักลงทุนสถาบันได้แสดงความต้องการซื้อหุ้นอย่างล้นหลาม สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ SFT และโอกาสการเติบโตในอนาคต


จ่อเทรด29ต.ค.นี้


ดังนั้น จึงได้กำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายหุ้น IPO ของ บมจ.ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) หุ้นละ 3.80 บาท โดยจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อหุ้นได้ในระหว่างวันที่ 19-22 ตุลาคม 2563 และคาดว่าจะนำหุ้น SFT เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้


ทั้งนี้ บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 220 ล้านบาท แบ่งเป็น 440 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 160 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 120 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 27.27 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นในครั้งนี้


นายซุง ชง ทอย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFTหนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียนโดยอาศัยจุดแข็งด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูป เปิดเผยว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ไปลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ เพื่อขยายกำลังการผลิต และเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ฟิล์มหดรัดรูปในกลุ่มฟิล์มใสที่มีความหดตัวสูง (POF Shrink Film) และกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน(Flexible Packaging)


สร้างโรงงานใหม่


รวมถึงบริหารจัดการกำลังการผลิตของเครื่องจักรผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปจากการลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่นี้ด้วย คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 สอดรับกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อดีมานต์ความต้องการฟิล์มหดรัดรูปที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ SFT เป็นหนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน ที่สามารถตอบสนองความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าในภาคธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว


อย่างไรก็ต่างบริษัทได้ให้ความเชื่อมั่นกับนักลงทุน ซึ่งธุรกิจของบริษัท ผูกกับอาหารและเครื่องดื่ม ในช่วงครึ่งปีหลังไม่ได้ชะลอตัว ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการเมือง ต้องมีความกังวลเป็นปกติ เพราะเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้แต่บริษัทสามารถผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาได้โดยตลอด ล่าสุดวิกฤติโควิด-19 บริษัทสามารถมียอดขายที่เติบโตได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นบทพิสูจน์ว่า ปัจจัยการเมืองไม่น่าเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของบริษัท


กำไรครึ่งปี 49.64ล.


ส่วนผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรกของปี 2563 (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีโดยทำรายได้รวม 330.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.05% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 294.95 ล้านบาทและมีกำไรจากการดำเนินงาน 49.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนที่ทำได้ 43.40 ล้านบาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X