> SET > STGT

19 ตุลาคม 2020 เวลา 11:10 น.

STGT ดีมานด์ถุงมือยางแกร่ง ออเดอร์ทะลัก หลังผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลกพุ่งต่อเนื่อง

ทันหุ้น –สู้โควิด –STGT ตั้งเป้าหมายทำผลงานงวดครึ่งปีหลังตแกร่ง ออเดอร์ถุงมือยางจากทั่วโลกไหลเข้า หลังจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในหลายประเทศ เร่งเครื่องเต็มกำลังการผลิต ด้านโบรกประสานเสียงให้คำแนะนำซื้อ คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 3/2563 จะเติบโตอย่างโดดเด่น หลังปรับขึ้นราคาขายเฉลี่ยถุงมือยาง


นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์รายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายทำผลงานงวดครึ่งปีหลังของปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากขณะนี้ยังคงได้รับคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ถุงมือยางจากทั่วโลกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ


เช่น สหรัฐอเมริกา, อินเดีย, ทวีปยุโรป ฯลฯ โดยในบางประเทศเกิดการแพร่ระบาดรอบที่ 2 (Second Wave) และรอบที่ 3 (Third Wave) ส่งผลให้ถุงมือยางเป็นสินค้าที่มีความต้องการใช้ในทางการแพทย์ตลอดจนภาคธุรกิจและการบริการต่างๆ เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตใหม่ในยุค New Normal ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสุขอนามัยมากยิ่งขึ้น


ทั้งนี้ จากคำสั่งซื้อสินค้าที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้เดินเครื่องจักรเต็มกำลังการผลิตในช่วงไตรมาส 3ที่ผ่านมาเพื่อเร่งผลิตและส่งมอบสินค้า ประกอบกับราคาน้ำยางไนไตรล์และน้ำยางข้นซึ่งเป็นต้นทุนวัตถุดิบหลักในการผลิตปรับสูงขึ้น จึงได้ปรับราคาขายเฉลี่ยถุงมือยางในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาให้สอดคล้องกับต้นทุนเพื่อรักษาความสามารถการทำกำไรอยู่ในระดับที่เหมาะสม


“เรามั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีที่เราสามารถทำผลการดำเนินงานได้อย่างโดดเด่นนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ปัจจุบันเราเร่งเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าอย่างเต็มที่และให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพสินค้าทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีถุงมือยางที่ดีในการปกป้องทุกการสัมผัสแก่ผู้ใช้งาน เพราะทุกสัมผัสนั้นมีความหมายต่อชีวิต สอดคล้องกับแนวคิด Touch of Life ปกป้องทุกสัมผัส ด้วยความห่วงใย” นางสาวจริญญา กล่าว


ทั้งนี้ โบรกเกอร์ชั้นนำจากต่างประเทศทยอยออกบทวิเคราะห์หลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายหุ้น STGT ไม่ต่ำกว่า 100 บาท โดย CITI ให้ราคาเป้าหมายหุ้นละ 145 บาท Credit Suisse ให้ราคาเป้าหมายหุ้นละ 142 บาท และ CLSA ให้ราคาเป้าหมายหุ้นละ 133 บาท


ขณะที่โบรกเกอร์ในประเทศหลายรายปรับราคาประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายอย่างต่อเนื่องพร้อมคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563จะเติบโตอย่างโดดเด่นและมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายหุ้น STGT ที่ 90 บาท โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 2,700 ล้านบาท เติบโต 158% จากไตรมาสก่อนหน้า และเติบโตถึง 2,500% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทหลักทรัพย์เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” และคาดการณ์ STGT จะมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2563 อยู่ที่ 2,356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123%


จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 2,150%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ให้ราคาเป้าหมาย STGT ที่ 109บาทต่อหุ้น พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 3/2563จะเพิ่มขึ้นกว่า 200% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วน

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” และปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 เป็น 4,840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 664% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และปี 2564 อยู่ที่ 7,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X