> กองทุน >

22 ตุลาคม 2020 เวลา 12:07 น.

บลจ.วรรณปลื้มผลงานปี63 ทำผลตอบแทนสวนวิกฤติ

ทันหุ้น-สู้โควิด: บลจ.วรรณ ฝ่าวิกฤติโควิด ภูมิใจผลงานธุรกิจ และการบริหารจัดการกองทุนที่ทำผลตอบแทนสูงสุด พร้อมเดินหน้าแผนงานขยายบริษัทในเครือเพื่อเป็นช่องทางขายและเพิ่มรายได้ให้บริษัท เปิด 4 ประเด็นหลัก เพื่อเป็นแนวทางการลงทุนใน และต่างประเทศ


นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด หรือ ONEAM เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน ในส่วนของ บลจ.วรรณ สามารถดำเนินธุรกิจได้ดีกว่าที่คาดไว้ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 4-5 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) 9เดือนแรก อยู่ที่ 1.41 แสนล้านบาท ซึ่งตัวเลขAUM ถึงสิ้นปีน่าจะเพิ่มขึ้นกว่าปัจจุบันได้ จากการออกกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์ต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถทำได้ตามเป้าหมาย


นอกจากนี้ยังมีการปรับกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของยุคนิวนอมัล (New normal) การเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจ โดยบลจ.วรรณมีแผนจะขยายช่องทางการขาย และเปิดตัวบริษัทในเครือใหม่ เพื่อเป้นอีกช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับบลจ.วรรณ


“เราไม่ได้มีธนาคารเป็นบริษัทแม่ ดังนั้นเรามีการปรับตัวใหม่ๆอยู่เสมอเพื่อสร้างรายได้ และเพิ่มช่องทางการขายให้กับผลิตภัณฑ์ของเรา รวมถึงของบริษัทอื่น ทั้งกองทุน การเงิน ประกันภัย”


ขณะที่ผลการดำเนินงานของ บลจ.วรรณออกมาดีในแง่ของการบริหารจัดการกองทุนก็ออกมาโดดเด่นเช่นกัน นายพจน์ บอกว่า กองทุนเปิดวรรณ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (ONE-UGG-RA) กองทุนเปิด วรรณ โกลบอล อีคอมเมิร์ซ (ONE-GECOM) กองทุนเปิด วรรณ ดิสคัฟเวอรี่ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (ONE-DISC-RA) กองทุนเปิด วรรณ ออล ไชน่า อิควิตี้ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (ONE-ALLCHINA-RA) ทั้ง 4 กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนโดดเด่น


โดยเฉพาะ ONE-GECOM ผลการดำเนินงาน YTD อยู่ที่ 71.72% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 99.01% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 91.68% (30 ก.ย.63 บลจ.วรรณ) และ ONE-UGG-RA ผลการดำเนินงาน YTD อยู่ที่ 63.44% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 61.75% ย้อนหลัง 1ปีอยู่ที่ 84.11% (30 ก.ย.63 บลจ.วรรณ)


ทางด้านนายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน ONEAM แนะนำว่า ควรลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือ DCA (dollar-cost averaging) กับทั้ง 4 กองทุน ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการสถานการณ์โควิด-19 และเป็นเมกะเทรนด์ของโลก อย่างกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มอีคอมเมิซในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงบริษัทของจีนที่ลงทุนทั้งในตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นโลกที่เติบโตสูง


ซึ่งที่ผ่านมาผลตอบแทนทั้ง 4 กองทุนนี้ขึ้นไปสูงมาก ดังนั้นการลงทุนแบบ DCAช่วยลดความเสี่ยงจากการที่ไม่สามารถคาดเดาว่าหุ้นจะปรับฐาน หรือๆไปต่อ โดยเฉพาหากมีวัคซีนโควิด อาจจะมีการปรับฐานได้ อย่างไรก็ตามจากธีมที่ 4 กองทุนเข้าไปลงทุนนายมณฑล มองว่า ยังไปต่อได้ในระยะ 1ปี ไม่เพียงเป็นเทรนด์อนาคต แต่ยังเป็นกุล่มธุรกิจที่มีรายได้เติบโตด้วย


นายมณฑล ยังกล่าวอีกว่า ปัจจัยหลักทั่วโลกปัจจุบันมีอยู่ 4 ประเด็น คือ 1. จีนน่าจะเป็นเพียงประเทศเดียวที่สามารถสร้างการเติบโตได้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 โดยไตรมาส 3 จีดีพีโต 4.9% ขณะที่ประเทศอื่นทั่วโลกต่างมีจีดีพีติดลบ 2.สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19ในยุโรปหกลับมารุนแรงมากขึ้น 3.การเลือกตั้งในสหรัฐที่จะเกิดขึ้นในต้นเดือนพฤศจิกายน และ 4.ปัจจัยในประเทศไทย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะมีผลต่อทิศทางการกลงทุนของไทยปละต่างประเทศ

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X