ทันหุ้น –สู้โควิด- ALLA มีลุ้นคว้างานโปรเจ็กต์ใหม่ มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท เติมพอร์ตส่งท้ายปี อวดงานในมือล้นกว่า 400 ล้านบาท ติดเครื่องปี 2564รุกแตกไลน์ธุรกิจใหม่เสริมแกร่งรายได้ พร้อมปักธงผลงานปีหน้าเติบโตไม่ต่ำกว่าตัวเลข 2 หลัก มองภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ฟื้นตัวดีขึ้น

นายองอาจ ปัณฑุยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล่า จำกัด (มหาชน) หรือ ALLA เปิดเผยว่าบริษัทอยู่ระหว่างการติดตามโครงการต่างๆ กับกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ อีก 2-3 อุตสาหกรรม ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 200-300 ล้านบาททั้งนี้นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563จนถึงปัจจุบันบริษัทได้รับงานโครงการใหม่เข้ามาเพิ่มประมาณ 4-5 โครงการ ซึ่งมีทั้งโครงการในภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโรงไฟฟ้า ปิโตรเคมี คลังสินค้า และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับอาหาร มีมูลค่ารวมกว่า 180-200 ล้านบาท

โดยมองว่าการรับงานใหม่เข้ามาจะช่วยเพิ่มปริมาณงานในมือ (Backlog) ของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันบริษัทมี Backlog ในมืออยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท คาดว่าเกือบครึ่งจะสามรรถทยอยส่งมอบและรับรู้ได้ภายในปีนี้ และในส่วนที่เหลือจะรับรู้เป็นรายได้ในปีถัดไป

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการติดตามงานประมูลต่างๆ อยู่อีกหลายโครงการ แม้ว่าทิศทางการรับงานโครงการขนาดใหญ่ในช่วงที่เหลือของปี 2563 อาจชะลอตัวลง เนื่องจากผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ส่วนมากจะเลื่อนแผนการลงทุนไปเป็นปี 2564 แต่บริษัทยังมีโอกาสในการรับงานโครงการขนาดเล็กและกลาง มูลค่าเฉลี่ยต่อโครงการประมาณ 5-10 ล้านบาทเข้ามาเพิ่ม ซึ่งมีมูลค่ารวมกันกว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยได้ข้อสรุปภายในช่วงที่เหลือของปี2563เป็นส่วนใหญ่

เติบโตตัวเลข2หลัก

นายองอาจ กล่าวถึงแนวทางการขยายไลน์ธุรกิจใหม่ว่า ปัจจุบันบริษัทยังคงมีความสนใจและมองหาโอกาสการลงทุนทั้งในธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก และการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่มีความแตกต่างออกไปจากธุรกิจเดิม เช่น พลังงานและเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจเดิมให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น ในตอนนี้อยู่ระหว่างการทำแผนงานเสนอต่อคณะกรรมการบริหารบริษัท ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งการร่วมทุนกับพันธมิตร และการลงทุนเอง เบื้องต้นคาดว่าภายในปี 2563 จะได้ข้อสรุปทั้งหมด และเริ่มดำเนินการได้ในปีหน้าเป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม บริษัทประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศไทยปี 2564 เชื่อว่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น งานโครงการภาครัฐยังคงเดินหนาทยอยประมูล ส่วนภาคเอกชนมองว่าจะเริ่มกลับมาเดินหน้าลงทุนต่างๆ ต่อไป หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มเบาบาง ทำให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานต่างๆ เริ่มกลับมาทยอยลงทุนต่อได้ ประกอบกับจากการวางกลยุทธ์เชิงรุกในการขยายตลาดให้ไลน์ธุรกิจใหม่ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจหลัก สร้างความแข็งแกร่งให้กับผลการดำเนินงานนอนาคต ทำให้บริษัทเชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในปีหน้ามีการเติบโตไม่ต่ำกว่าตัวเลข 2 หลัก

สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/2563 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 129,174,000 บาท ลดลง 80 ล้านบาท หรือหดตัวลง 38% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีกับปีก่อน 209,208,000 บาท  ขณะที่กำไรสุทธิในไตรมาส 3/2563 อยู่ที่ 7,564,000 บาท ลดลง 24.25 ล้านบาท หรือคิดเป็น 76% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนที่ 31,818,000 บาท และกำไรสุทธิในช่วง 9เดือนแรกของปี2563 อยู่ที่ 31,629,000 บาท ลดลง 15.84 ล้านบาท หรือคิดเป็น 33%เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนที่ 47,470,000 บาท โดยปัจจัยหลักๆ มาจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงหลังจากเกิดวิกฤตโรคระบาด ทำให้กลุ่มลูกค้ามีการเลื่อนกำหนดส่งมอบ รวมถึงชะลอแผนการลงทุนไปบ้าง ทำให้ผลการดำเนินเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนอาจหดตัวลง แต่หากเทียบกับช่วงไตรมาส 2/2563 มีการปรับตัวที่ดีขึ้น