> SET > SFLEX

17 พฤศจิกายน 2020 เวลา 17:23 น.

SFLEX สร้างสถิติเติบโต Q3งบแกร่งกำไรพุ่ง130%

ทันหุ้น-SFLEX จับตาผลงานทั้งปีมีแววฟอร์มสวย หลังประกาศงบ Q3 ทุบสถิติใหม่ บุ๊คกำไร 37.53 ล้านบาท โต 130.10% แย้มมีแผนเตรียมปิดดีล M&A ใหญ่ในไตรมาส 4 ปีนี้ 


ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFLEX เปิดเผยถึง ผลประกอบการไตรมาส 3/2563 มีกำไรสุทธิที่  37.53 ล้านบาท เติบโต 130.10% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 16.31 ล้านบาท สามารถทำกำไรขั้นต้นในอัตรา 21.39% ของยอดขาย ซึ่งคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นถึง 21.74% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้น 17.57% เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และการบริหารต้นทุนการผลิตสินค้าโดยปรับความสามารถในการผลิต และการบริหารต้นทุนวัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


ขณะที่ ไตรมาส 3/2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 376.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 17.34% โดยในส่วนของรายได้จากการขายอยู่ที่ 373.94 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มสินค้าอุปโภค (Non-Food) จำนวน 278.37 ล้านบาท และกลุ่มสินค้าบริโภค (Food) จำนวน 92.29 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 75.10% และ 24.90% ตามลำดับ


               “ผลประกอบการสะท้อนการทำงานตามแผนที่วางไว้ รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนภายในที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับจากลูกค้ากลุ่มหลักของ SFLEX ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกลุ่มสินค้าอุปโภค (Non-Food) และกลุ่มบริโภค (Food) รายใหญ่ของประเทศ รวมทั้งความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้า" 


ดร.สมโภชน์ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้ารายใหญ่อยู่ที่ 55 ราย จากในปี 2562 มีลูกค้ารายใหญ่อยู่ราว 37 ราย ลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอยู่ในกลุ่ม Food ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มาก โดยเชื่อมั่นกลยุทธ์การผลิตบรรจุภัณฑ์เกรดพรีเมี่ยมและคิดค้นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องร่วมกับลูกค้า และการขยายเข้าสู่ตลาด Medical (บรรจุภัณฑ์เครื่องมือแพทย์) ซึ่งมีมาร์จิ้นสูง โดยจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2563 เต็มไตรมาส พร้อมทั้งรักษาอัตรากำไร เพื่อทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ” 


ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/2563 คาดว่ายอดขายจะสามารถสร้างสถิติใหม่สูงสุดได้ต่อเนื่อง เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจเป็นไปตามความต้องการใช้งานบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ในช่วงปลายปี


นอกจากนี้ จากการเดินหน้าทำตลาดลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น ส่งผลให้คำสั่งซื้อขยับสูงขึ้นตาม และเน้นเจาะตลาดบรรจุภัณฑ์เกรดพรีเมี่ยมในกลุ่มอาหาร บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานรวมปี 2563 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมกันนี้เร่งเจรจาเตรียมปิดดีล M&A ภายในไตรมาส 4 ปีนี้


บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ยังคงคำแนะนำ ซื้อ SFLEX ราคา Fair Value ในกรอบ 7.50-7.75 บาทต่อหุ้น (อ้างอิงวิธี PER 30 เท่าใกล้เคียงกับบริษัทระดับโลกที่ทำธุรกิจเดียวกันและวิธี DCF) ณ ราคาปัจจุบันคิดเป็นระดับ Forward P/E ราว 22.8 เท่า ระดับ PEG ratio ต่ำกว่า 1 ยังเป็นหุ้น Undervalued


จากมุมมองอนาคตที่สดใสต่อการเติบโตในระยะ 2-3 ปีของบริษัท จากปัจจัยหนุนสิทธิประโยชน์ทางภาษี (BOI) ราว 300 ล้านบาท สามารถทยอยใช้ 5 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มทยอยใช้ในปี 2564 ราว 24-25 ล้านบาท คิดเป็น 0.03 บาทต่อหุ้น นับเป็น upside ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 เพิ่มขึ้นราว 10-12% จาก 207 ล้านบาท (EPS 0.25 บาทต่อหุ้น) เป็น 231 ล้านบาท (EPS 0.28 บาทต่อหุ้น) โดยคิดเป็น Fair Value หลังรวม Upside จาก BOI ราว 8.44 บาทต่อหุ้น (เพิ่มขึ้นจากราคาเป้าหมายปัจจุบันราว 12%)

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X