ทันหุ้น - สู้โควิด – IIG รุกแตกไลน์ธุรกิจใหม่ “iiG Data” ตอบโจทย์ความท้าทายด้านกลยุทธ์ Big Data และ Data Activation อย่างครบวงจร คาดสร้างรายได้เติบโตมากกว่า 20% ภายใน 3 ปี เล็งจ่ายหุ้นปันผล-ออก ESOP เพิ่มฟรีโฟลต

นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ IIG เปิดเผยว่า บริษัทพัฒนาหน่วยธุรกิจใหม่ iiG Data ซึ่งได้เห็นถึงความต้องการต่างๆ ของลูกค้าที่ยังไม่มีบริการที่มารองรับ พร้อมรุกพัฒนาการให้บริการและมองหาซอฟต์แวร์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า โดย iiG Data จะช่วยรองรับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนให้กับบริษัท โดยตั้งเป้าในธุรกิจใหม่นี้จะสร้างรายได้ให้กับริษัทไม่ต่ำกว่า 20% ภายใน 3 ปี

ดันรายได้พุ่งขึ้น

ทั้งนี้คาดว่าบริการใหม่ดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันรายได้ในปี 64 ให้เพิ่มขึ้นแตะระดับ 650-700ล้านบาท จากปีนี้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ราว 500 ล้านบาท หลังจาก 9 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมีรายได้แล้ว 385.14 ล้านบาท และในช่วงที่เหลือของปีนี้เชื่อว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ที่ทำให้ผู้บริโภคมีความจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนร่วมทุนหรือซื้อกิจการ(M&A) ในธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน เพื่อเข้ามาต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีอยู่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ 2-3 ราย ทั้งธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็ก โดยคาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2564

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ในปีหน้าทุกธุรกิจของบริษัทยังคงเติบโตได้ จากรายได้การให้บริการออกแบบติดตั้งและพัฒนาระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า(CRM) คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ซึ่งยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะ 2-3ปีที่ผ่านมา

แผนเพิ่มฟรีโฟลต

นอกจากนี้ยังมีแนวคิดการเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้น IIG เนื่องจากปัจจุบันยังมีค่อนข้างน้อย ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือกับที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) เพื่อหาวิธีแก้ไข ปัจจุบันบริษัทมีผู้ถือหุ้นรายย่อยเพียง 25%เบื้องต้นคาดว่าจะใช้วิธีการจ่ายปันผลเป็นหุ้นทั้งหมดเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงอาจจะมีการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อกรรมการหรือพนักงาน (ESOP) ในปีหน้าด้วย

สำหรับผลการดำเนินงวด 9 เดือนแรกปี 2563 บริษัทและบริษัทฯ ย่อย มีกำไรสุทธิ 36.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.85 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 60.1% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมทั้งหมด 385.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133.41 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 53% โดยมีรายได้หลักจากใบอนุญาตการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ การขายและให้บริการ อยู่ที่ 382.82 ล้านบาท คิดเป็น 99.4% ของรายได้ทั้งหมด และที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ อีก 2.33 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.6%