> กองทุน >

20 พฤศจิกายน 2020 เวลา 15:03 น.

เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง ชี้โอกาสลงทุนหุ้นสร้างผลตอบแทนที่ดี กับกองทุน K-CHANGE

ทันหุ้น - KBank Private Banking (เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง) ชี้โอกาสลงทุนในหุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมๆ กับที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลก ผ่านกองทุน  K-CHANGE โดยผู้จัดการกองทุนจาก Baillie Gifford และ บลจ. กสิกรไทย ร่วมอัพเดทเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กระทบต่อราคาหุ้นทั่วโลก รวมทั้งกลยุทธ์ในการเลือกหุ้นที่จะลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาว


นางสาวศิริพร สุวรรณการ Managing Director – Financial Advisory Head Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ราคาหุ้นทั่วโลกปรับลดลงแรง  และค่อยๆ ฟื้นตัว แต่ก็ยังมีกองทุนที่กระจายการลงทุนทั่วโลกบางกอง เช่น กองทุน K-CHANGE ซึ่งกองทุนหลัก (Master funds) บริหารโดย Baillie Gifford ประเทศอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงในด้านการเลือกหุ้นรายตัวที่มีโอกาสเติบโตสูง หรือ Growth stocks และจะลงทุนในบริษัทประมาณ 30-40 บริษัทเท่านั้น สามารถให้ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปีถึง ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ขณะนี้เป็นบวกมากกว่า 56.59% โดยกองทุน K-CHANGE มีหลักการในการเลือกหุ้น คือ หลักทรัพย์ที่ลงทุนต้องสามารถเติบโตในแง่รายได้ 2 เท่าในระยะเวลา 5 ปี และยังต้องเป็นธุรกิจยังต้องสร้างความยั่งยืน และเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีขึ้น โดยธุรกิจที่กองทุน K-CHANGE ลงทุน มี 4 ธีมหลัก ได้แก่


1.สังคมและการศึกษา (Social Inclusion and Education) อาทิ TSMC ผู้รับผลิตชิพประมวลผล และแผงวงจรรายใหญ่สุดของโลก ที่ช่วยให้ราคาต้นทุนของ Semiconductors ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ  อีกทั้ง ความต้องการ semiconductors ที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มการผลิตในอนาคตที่เน้นว่าจ้างแก่ผู้ผลิตเช่น TSMC เพิ่มมากขึ้นจะช่วยให้เติบโตได้ในระยะยาว  เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียน  และการลงทุนสูงทำให้บริษัทมีความได้เปรียบด้านราคา  ความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีมาอย่างยาวนาน  ยิ่งเป็นส่วนช่วยสำคัญในการสร้างผลกำไร  และผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้เป็นอย่างดี  ASML บริษัทที่พัฒนาวิจัยเทคโนโลยีให้สามารถผลิต Semiconductors ได้มีขนาดเล็กลง แม่นยำ มากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง และราคาของ Semiconductors ถูกลง ส่งเสริมความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมต่างๆ ทำให้บริษัทมีการเติบโตในด้านส่วนแบ่งการตลาดอย่างต่อเนื่อง


2.สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ (Environment and Resource Needs) เช่น  เครื่องจักรที่ช่วยในการพัฒนาทางการเกษตร  อย่าง กล้องช่วยตรวจจับในการใช้ยาฆ่าแมลงเฉพาะจุด  เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้น รวมทั้งยังช่วย ลดต้นทุนให้กับเกษตรกร หรือ  ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดจากพลังงานลมที่เปลี่ยนตัวเองจากที่เคยผลิตจากถ่านหิน  และน้ำมัน มาเป็นพลังงานสะอาด 100% ภายในระยะเวลาสิบปี จนกลายมาเป็นผู้ผลิต ติดตั้ง และบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าจากฟาร์มกังหันลมบนทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก  เป็นต้น


3.ความไม่เท่าเทียมในเรื่องสาธารณสุขและคุณภาพชีวิต (Health care and Quality of life) อาทิ Dexcom ผู้ผลิตอุปกรณ์วัดระดับกลูโคสในเลือด (CGM)  สามารถตรวจค่ากลูโคสแบบต่อเนื่องด้วยตนเอง  เพื่อให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถรักษาระดับที่ปลอดภัยของกลูโคสในเลือด  สามารถยึดติดกับผิวหนังหน้าท้องผู้ป่วย ด้วยเทคโนโลยีที่เหนือชั้น  บวกกับแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโรคเบาหวาน  ทำให้กองทุนมองเห็นโอกาสและศักยภาพของบริษัทในการเติบโตและนำเทคโนโลยีทางการแพทย์มาใช้จนกลายเป็นมาตรฐานในการดูแลสุขภาพต่อไป Moderna ผู้ที่สามารถคิดค้นวีคซีนโควิด-19 ได้เป็นเจ้าแรกและมีผลสำเร็จที่สูงถึง 94.5% และมีผลข้างเคียงน้อย   ยิ่งไปกว่านั้นเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถที่จะพัฒนาต่อยอดไปใช้ในการรักษาให้ตรงจุดมากขึ้น  เช่น มะเร็ง เป็นต้น


4.การส่งเสริมความเท่าเทียมให้กับผู้มีรายได้น้อย (Base of the Pyramid) เช่น บริษัทที่ทำให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงบริการทางเงินได้ง่ายขึ้น  เช่น การมีประกันสำหรับเกษตรกรให้สินค้าทางการเกษตรในกรณีที่เกิดน้ำท่วม  การทำศูนย์เรียนรู้เพื่อรวบรวมและแบ่งปันประสบการณ์การทำเกษตรที่ประสบความสำเร็จหรือแหล่งรวมเมล็ดพันธุ์ราคาถูก มีคุณภาพ เป็นต้น


ด้าน นางสาวอลิสัน คัทท์เบิร์ท จาก Baillie Gifford กล่าวว่า  การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เปรียบเสมือนแรงกระตุ้นที่รุนแรงและได้เร่งให้สิ่งต่างๆ  เกิดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเร่งให้บริษัทยา ต้องคิดค้นวัคซีน  เพื่อป้องกันโรค การคุยกับหมอทางไกล ผ่าน VDO Conference เกิดขึ้นจริง เพราะผู้ป่วยไม่สามารถออกจากบ้านได้ รวมถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจ e-commerce  เป็นต้น  แม้หลักทรัพย์ส่วนใหญ่ที่กองทุนหลักบริหารจะอยู่ในสหรัฐฯ  การเปลี่ยนผู้นำรัฐบาลจากนายทรัมป์เป็นนายไบเดน  ก็ไม่ได้กระทบต่อธุรกิจที่ลงทุน กลับยิ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจบางประเภท  เนื่องจากนโยบายของไบเดนนั้น ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม  โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)  ยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด 


สำหรับกลยุทธ์สำคัญในการเลือก Growth Stocks เพื่อลงทุนคือการลงทุนในบริษัทที่ disrupt บริษัทที่มีอยู่เดิม ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ไฟฟ้า หรือ E-commerce เป็นต้น และ ยังกล่าวถึง อีก 3 ธีม ที่เป็น Megatrend อื่นๆ ที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต ได้แก่ 1) Online disruption 2)  Health Care  3)  Energy transition


“KBank Private Banking ร่วมกับ Baillie Gifford ในการผลักดันให้นักลงทุนในประเทศไทย ลงทุนในกองทุน K-CHANGE โดยมีเป้าหมายหลัก 2 เรื่องคือ 1) ต้องสามารถสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนได้เป็นอย่างดี ในระยะยาว โดยตั้งแต่มีการแนะนำกองทุนตั้งแต่มีการจัดตั้งให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 84.5% 2) ต้องสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับโลกอย่างที่สามารถจับต้องได้ ซึ่งในรายการระบุว่าทุกๆ การลงทุน 15 ล้านบาท ในปี 2019  ช่วยให้คนด้อยโอกาสในสังคมสามารถเข้าถึงโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต  ช่วยให้สามารถหาข้อมูลเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต  ช่วงส่งเสริมการศึกษาให้กับนักเรียน 1 คน ช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้ 310 ตัน ช่วยประหยัดน้ำดื่มกว่า 2.3 แสนลิตร ช่วยป้องกันโรคให้กับคน 19 คน ช่วยรักษาโรให้คนป่วย 5 คน ช่วยให้คน 50 คน สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน และ มอบเงินทุนจำนวนกว่า 4.6 ดอลล่าห์สหรัฐ ให้กับผู้มีรายได้น้อย ” นางสาวศิริพร กล่าว


หมายเหตุ

  1. K-CHANGE ระดับความเสี่ยงกองทุน : ระดับ 6 / ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน: ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน
  2. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า/เงื่อนไขผลตอบแทน/ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
  3. ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
  4. ผลการดำเนินงานในอดีต/  ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน  มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X