ทันหุ้น –SEAFCO ผนึกกำลัง RT เล็งรับงานประเทศเพื่อนบ้าน อัพฐานการเติบโตต่างแดน มั่นใจรักษางานในมือสิ้นปี 2563 ไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท โบรกชี้รถไฟฟ้าสายสีส้ม-รถไฟฟ้าความเร็วสูง เป็นความหวังต่องานใหม่คาดมีงานฐานรากรวมกันไม่ต่ำกว่า 2.7 พันล้านบาท ช่วยเพิ่มงานในมือและผลประกอบการในอนาคต

ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT  มองว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ เนื่องจากรูปแบบการทำงานมีความคล้ายคลึงกัน และบริษัท RT ถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ เนื่องจากเคยไปรับงานในต่างประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายการเติบโตของบริษัทในการที่จะเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

“หลังจากนี้หากสภาพของตลาดมีความเหมาะสมเอื้อต่อการลงทุนในอนาคตอาจจะมีการร่วมมือของทั้งสองบริษัทเข้าไปรับงานในต่างประเทศมากขึ้น อย่างไรก็ตามต้องประเมินความชัดเจนของสภาวะตลาดและภาพรวมเศรษฐกิจก่อนถึงจะวางแผนการลงทุนร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทถือหุ้นใน RT จำนวนที่ไม่เยอะมากแต่มีโอกาสซื้อเพิ่มหลังจากนี้” ดร.ณรงค์ กล่าว

*รักษางานในมือ 2 พันล.

ส่วนทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 2563 คาดจะมีงานเอกชนทยอยเข้ามาบ้าง แต่มูลค่าไม่มาก เนื่องจากในปีนี้ภาคเอกชนชะลอการลงทุน ประกอบกับเป็นช่วงใกล้จะสิ้นปี ซึ่งคาดว่าจบปี 2563 บริษัทจะมีงานในมือ(Backlog) ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีถัดไป อย่างไรก็ดีทิศทางในปี 2564 น่าจะได้เห็นการลงทุนภาครัฐที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีแผนเข้าประมูลงานใหม่ อาทิ งานรถไฟฟ้าความเร็วสูง งานรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนต่อขยาย รวมถึงงานฐานรากต่างๆ มูลค่ารวมๆ ราว 2,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทยังสามารถรักษาระดับกำไรได้ในระดับที่เหมาะสม แม้จะมีงานบางงานที่มีมาร์จิ้นไม่สูงมากนักและการแข่งขันในตลาดก็สูง รวมถึงมีเรื่องสถานการณ์โควิด-19 การขาดแคนคนงาน เข้ามากระทบต่อภาพรวมการดำเนินงาน ซึ่งเป็นปัญหาที่บริษัทพยายามแก้ไข

*สายสีส้มคือความหวัง

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง SEAFCO ว่า คาดสิ่งที่จะเป็นปัจจัยบวกหนุนงานใหม่และผลประกอบการของ SEAFCO คือการรับงานใหม่เพิ่มระหว่างปีคาดงานรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบินมีความชัดเจนในการจ้างงานฐานรากซึ่งมีมูลค่างานโดยรวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนต่อขยาย คาดมีงานฐานรากที่ SEAFCO คาดหวังได้รับไม่ต่ำกว่า 1.5 พันล้านบาท คาดทั้ง 2งานใหญ่จะช่วยเพิ่มงานในมือและผลประกอบการในอนาคต

ทั้งนี้คาดสถานการณ์ต่างๆ ที่กดดัน SEAFCO ด้วยผลกระทบจากการขาดแคลนคนงาน และงานใหม่ที่ผลต่อการแข่งขันในตลาด จะค่อยๆ คลี่คลายโดยปัญหาขาดคนงาน ทาง SEAFCO อยู่ระหว่างหาคนงานใหม่ และงานจากโครงการมูลค่าสูงเริ่มเห็นความคืบหน้าของการก่อสร้าง หากเป็นตามคาดการแข่งขันในตลาดจะเริ่มลดลง โอกาสที่ SEAFCO จะเลือกรับงานที่มีมาร์จิ้นดีทำได้ดีขึ้น ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรที่ฟื้นตัว พร้อมการเพิ่มงานในมือ

*เป้าปี 64 ที่ 6.70 บ.

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง CK ว่าคงราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 6.70 บาท (อิง PER 15.6 เท่า) ราคาหุ้นมี Upside มากกว่า 10% จึงคงคำแนะนำซื้อลงทุน

อย่างไรก็ดี ระยะสั้นหุ้นถูกกดดันจากงบไตรมาส 3/2563 ต่ำกว่าคาดมาก และกังวลเกี่ยวกับมาร์จิ้นที่อ่อนแอ รวมถึงเราและตลาดมีโอกาสปรับประมาณการลง โดยประเมิน Sensitivity อัตรากำไรขั้นต้นที่เปลี่ยนไปทุกๆ 25bps จะส่งผลต่อประมาณการกำไร 2% และราคาเหมาะสมปีหน้า 0.15 บาทต่อหุ้น

ซึ่งหากอ้างอิงสมมติฐานปรับลดกำไรขั้นต้นปีหน้าจากเดิม 18% เป็น 16.5%-17.5% จะทำให้คาดการณ์กำไรปีหน้าลดลง 5-10% และราคาเหมาะสมเป็น 5.90-6.40 บาท