ทันหุ้น – AMATA รับยอดขายที่ดินปี 2563 นี้ ต่ำเป้า 950 ไร่ หลังพิษโควิด-19 ทำลูกค้าต่งชาติเลื่อนเซ็นสัญญาซื้อที่ดินไปปี 2564 กว่า 9-10 ราย รวมหลายร้อยไร่ พร้อมมุ่งเน้นลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ชะลอซื้อที่ดินแปลงใหม่ ชูการลงทุน บ.โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิส หนุนเป็นผู้ให้บริการนิคมอย่างครบวงจรมายิ่งขึ้น รองรับลูกค้าใหม่-เก่า

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า  การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กดดันยอดขายที่ดินในปี 2563 อาจทำได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 950 ไร่ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีการโอนที่ดินแล้ว 708.5 ไร่ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติทำให้ในปัจจุบันยังติดปัญหาในเรื่องของการเดินทางเพิ่มสำรวจที่ดินและเซ็นสัญญาซื้อขาย

ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีลูกค้าต่างชาติกว่า 9-10 ราย ซึ่งนับเป็นจำนวนที่ดินรวมกันกว่าหลายร้อยไร่ ขอเลื่อนกำหนดเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินออกไปเป็นปี 2564 หรือจนกว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลาย ประกอบกับจากการที่ภาครัฐมีแนวคิดที่จะปรับการกักตัวในรูปแบบ Area Quarantine คือ การกักตัวในห้องพัก 10 วัน ตามรูปแบบเดิม ตามด้วยการคุมไว้สังเกตโดยมีการกำกับติดตามใกล้ชิดในพื้นที่ที่กำหนดอีก 4 วันนั้น มองว่าเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อลูกค้าที่จะเข้ามาทำธุรกรรมในประเทศไทยได้ในระยะเวลาที่สั้นลงจากเดิม

*ตุนที่ดินในมือเพียบ

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทจะมุ่งเน้นการคุมเข้มค่าใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น เช่น อาจมีการปรับลดการเดินทางระหว่างประเทศ รวมถึงการซื้อที่ดินแปลงใหม่ออกไปก่อน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทยังคงมีที่ดินรอการพัฒนาอยู่ในมืออีกกว่า 13,000 ไร่ ประกอบไปด้วยนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ ชลบุรี จำนวนกว่า 3,000 ไร่ และนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ ระยอง อีกมากกว่า 9,000 ไร่ เป็นต้น โดยในปีหน้าจะหันมาให้ความสำคัญในการเก็บกระแสเงินสดไว้ให้ได้มากที่สุด

ส่วนเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมและยอดขายในปี 2564 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยอาจต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ประกอบการตัดสินใจด้วย หากว่าการแพร่ระบาดคลี่คลาย วัคซีนที่ออกมาสามารถใช้ได้จริง มาตรการควบคุมของทั้งไทยและต่างประเทศเริ่มผ่อนคลายให้มีการเดินทางระหว่างประเทศได้แล้วการทำธุรกรรมต่างๆ ก็จะตามมา ซึ่งการวางเป้าหมายต่างๆ ในตอนนี้คงเร็วเกินไป เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดในหลายประเทศยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่

ขณะที่การลงทุนโครงการโรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร แห่งที่ 2 ร่วมกับทางโรงพยาบาลวิภารามนั้น ปัจจุบันยังเป็นเพียงขั้นตอนของการเจรจาและยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่เบื้องต้นคาดว่าจะยังคงอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ และไม่ใช่ที่เดิม

*ชู One stop service

พร้อมกันนี้ ในช่วงที่ผ่านมา บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ AMATA) ได้ลงทุนร่วมกับ บริษัท โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย จำกัด (โซเด็กซ์โซ่) จัดตั้งบริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งอมตะ ฟาซิลิตี้ ถือหุ้น 40% และโซเด็กซ์โซ่ ถือหุ้น 60% โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการอย่างครบวงจรกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ ชลบุรี และนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ ระยอง ซึ่งในปี 2563 บริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิสเซส จำกัด ได้ดำเนินธุรกิจครบ 5 ปี

อย่างไรก็ตาม บริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิสเซส จำกัด ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้รับบริการเป็น 140 ไซต์งาน ในปี 2564 จากปัจจุบันอยู่ที่ 70 ไซต์งาน ขณะที่ในปี 2566 จะมีจำนวนผู้รับบริการเพิ่มเป็นจำนวน 340 ไซต์งาน และในปี 2568 จำนวนผู้รับบริการเพิ่มเป็น จำนวน 750 ไซต์งาน ซึ่งในปี 2568 จะมีรายได้สะสมที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท จากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้สะสมแล้ว 165 ล้านบาท