> SET > JWD

03 ธันวาคม 2020 เวลา 14:55 น.

JWD อยู่บนเส้นทางแห่งการเติบโตที่แข็งแกร่ง

ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย (KS) ส่อง JWD คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 9.00 บาท มองว่าบริษัทฯ ยังอยู่บนเส้นทางที่จะนำไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่ง ฝ่ายวิจัยมองบวกต่อประเด็นการฟื้นตัวของ 4 ธุรกิจหลักที่ท่าเรือแหลมฉบัง หลังจากได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโครงการเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2563 หลังจากมีการฟื้นตัวอย่างดีเยี่ยมในไตรมาส 3/2563 ทิศทางกำไรไตรมาส 4/2563 ถึงปี 2565 จะอยู่ในทิศทางขาขึ้นต่อไป


คลังสินค้ามีการเช่าพื้นที่เกือบเต็มกำลัง สืบเนื่องจากอุปสรรคด้านการส่งออกที่ได้รับผลกระทบมาจากสถานการณ์โควิด-19 กอปรกับลักษณะบริการครบวงจรบวกกับและการมีบริการคลังสินค้าปลอดอากรของบริษัทฯ ทำให้อัตราการเช่า (OR) โดยรวมของคลังสินค้าทั่วไปของ JWD อยู่ที่ 96% เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากค่าเฉลี่ยที่ 70-80% ในอดีต แม้ว่าปัจจัยด้านสถานการณ์โควิด-19 จะเป็นปัจจัยชั่วคราว แต่ JWD เชื่อว่าลักษณะบริการของบริษัทฯ ที่ครบวงจรดังกล่าวจะช่วยใหลู้กค้าลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลงได้ซึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้มี OR ในระดับสูงต่อไป ขณะที่สัญญาเช่าที่ยืดหยุ่นไม่ว่าจะเป็นแบบระยะยาวอัตราค่าเช่าคงที่หรือการเช่ารายวันและบริการเสริมอื่น ๆ แก่ลูกค้านอกจากจัดเก็บ (on-site service) จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ JWD โดดเด่นกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง


ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ มีลูกค้าหน้าใหม่เพิ่มเข้ามาต่อเนื่อง ผลการดำเนินงานด้านธุรกิจยานยนต์ของบริษัทฯ ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากช่วงเดือน เม.ย. และ พ.ค. 2563 หลังจากค่ายยานยนต์ทั้งหมดได้กลับมาผลิตตามปกติแล้ว แม้ปัจจัยสำคัญที่ฉุดกำไรของบริษัทฯ ลงคือการที่ NISSAN หนึ่งในลูกค้าหลัก ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาเช่าระยะยาว แต่อุปสงค์ส่วนเพิ่มจากลูกค้ารายอื่น เช่น ISUZU FORD และ MAZDA กอปรกับลูกค้า หน้าใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ รวมถึง SUZUKI และ FOTON ต่างจะช่วยชดเชยปัจจัยฉุดข้างต้น ได้ในระดับหนึ่ง สำหรับธุรกิจ on-site service ที่ให้บริการกับค่ายยานยนต์จำนวนมาก เช่น NISSAN ก็เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนต่อการฟื้นตัวในช่วงหลังนี้เช่นกัน โดย JWD มองว่าหน่วยธุรกิจนี้จะฟื้นคืนสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 ได้ในช่วงกลางปี 2564 ขณะที่หน่วยธุรกิจ on-site service จะมีลูกค้ารายใหม่ๆ (จากจีนและมาเลเซีย) เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง


ลานพักสินค้าอันตรายฟื้นตัวขึ้น ตามกิจกรรมทางการค้า ด้วยการที่กิจกรรมทางการค้าเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว ทำให้ปริมาณตู้สินค้า ที่ลานพักสินค้าอันตรายปรับตัวสูงขึ้นตาม โดยขณะนี้มีระดับต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 เพียง 5% จาก 15-20% ในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.2563 หน่วยธุรกิจนี้ได้แรงหนุนจากการโยกย้ายของสินค้าอันตรายส่วนใหญ่ในประเทศไทยมาใช้บริการที่ท่าเรือแหลมฉบังมากถึง 90% จาก 70% ในอดีต ขณะที่การฟื้นตัวด้านการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคก็เป็นอีกแรงหนุนต่ออุปสงค์ในพื้นที่แหลมฉบัง เพราะราวๆ ครึ่งหนึ่งของปริมาณตู้สินค้า คือสินค้าประเภทชิ้นส่วนยานยนต์ทั้งจากการส่งออกและนำเข้า ทั้งนี้โดยปกติแล้วไตรมาส 3 จะเป็นช่วง low season สำหรับธุรกิจนี้ นั่นหมายความว่าบริษัทฯ กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลที่ดีกว่าเดิม นอกจากนี้ ด้วยการที่ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ก็มีลานพักสินค้าอันตรายอยู่ด้วย จึงถือเป็นโอกาสที่ JWD จะขยายธุรกิจนี้ให้เติบโตยิ่งขึ้น


ธุรกิจท่าเรือเทียบชายฝั่งมีอุปสงค์ที่ปรับตัวสูงขึ้นชัดเจน หลังจากที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) มีการมุ่งเน้น ในการดำเนินงานธุรกิจท่าเรือเทียบชายฝั่งมากขึ้นในช่วงเดือน ก.ค. 2563 เพราะอุปสงค์ที่ท่าเรือแห่งนี้มีระดับต่ำมากในครึ่งแรกของปี 2563 ก็พบว่าปริมาณตูสิ้นค้า ที่ท่าเรือแห่งนี้ต่อเดือนได้ปรับดีขึ้นอย่างมากเป็น 11,000 TEU (ตู้สินค้าขนาดเทียบเท่า 20 ฟุต) ในครึ่งหลังปี 2563 สำหรับ JWD ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการในท่าเรือแห่งนี้ ก็จะเริ่มทำกำไรได้หลังจากประสบภาวะขาดทุนในครึ่งแรกของปี 2563 JWD คาดว่าอัตราการดำเนินงานจะแตะระดับ 80% ในปีหน้าจากปัจจุบันที่ 66% ซึ่งพัฒนาการในส่วนนี้จะสร้างส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจนี้ได้มากยิ่งขึ้นในปีหน้าเพราะมีจุดคุ้มทุนที่ต่ำกว่า 40%


Valuation and Recommendation

ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” JWD ด้วยราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 9.00 บาท ยังเชื่อว่ากำไรไตรมาส 4/2563 จะโตมากกว่าไตรมาส 3/2563 และมองว่าปี 2564 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับปี 2563 ทั้งนี้พื้นฐานที่แ ข็งแกร่งของหน่วยธุรกิจของบริษัทฯ จะไม่เพียงช่วยลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนอย่างสถานการณ์โควิด-19 เท่านั้น แต่จะช่วยให้ขยายกิจการไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้อีกด้วย และด้วยประโยชน์จากการผนึกกำลังนี้ก็จะทำให้หุ้นมีกำไรและมูลค่าที่สูงขึ้น 


ส่วนในระยะสั้น การขยายธุรกิจห้องเย็นของบริษัทฯ จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโต ขณะที่ธุรกิจบริการอาหาร โลจิสติกส์แบบ B2C และธุรกิจใหม่ๆ จะเป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มศักยภาพต่อการเติบโตในระยะยาวให้กับบริษัทฯ อีกทาง ทั้งนี้เมื่ออิงจากอัตราผลตอบแทนโครงการ (IRR) สำหรับการลงทุนใหม่ๆ ที่ 12-15% จะพบว่าการลงทุนเพิ่มเติมทุกๆ 1.0 พันลบ. จะสร้างมูลค่าส่วนเพิ่มให้กับบริษัทได้ 1.08-1.59 บาท


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X