ทันหุ้น- จับตา TVDโค้งส่งท้ายปี 2563 กำไรโตแรง100% หลังคุมค่าใช้จ่าย แถม ปี 2564 เตรียมพร้อมการเติบโตรอบใหม่หลังปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นได้พันธมิตรต่างแดนหนุน คาดแล้วเสร็จในปี2563 รับผลเต็มที่ในปี2564 โบรกชู TVDเป็นหุ้นเติบโต ส่องราคาพื้นฐาน1.67 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึงแนวโน้มธุรกิจบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส4/2563 จะมีกำไรปกติไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท หรือ เติบโตไม่น้อยกว่า 100% เมื่อเทียบจากไตรมาส3/2563  และพลิกจากที่ขาดทุน 6 ล้านบาท ในไตรมาส4/2562 จากรายได้ที่เติบโต และอัตรากำไรสุทธิดีขึ้นจากการควบคุมค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้หลังTVD ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นโดย Momo.com Inc. เป็นผู้ประกอบการ e-Commerce รายใหญ่ของไต้หวันเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 24.99% จากการซื้อหุ้น Big lot ในราคา 1.13 บาท และบางส่วนซื้อผ่านกระดานซื้อขายราว 5% จะมาช่วย TVD ในด้านธุรกิจ B2C คือการขายปลีกสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ส่วนนี้ยังต่ำกว่า 10%

ผู้ถือหุ้นอันดับ 2 คือ Tri-Stage ประเทศญี่ปุ่น มีความเชี่ยวชาญด้าน Digital marketing และการทำ Business process outsourcing (BPO) คือการมอบหมายงานบางส่วนภายในองค์กรให้กับบุคคลภายนอกรับผิดชอบดูแลแทน จะมาช่วยหนุนการให้บริการ B2B เช่นการให้บริการบริหารคลังสินค้า ขนส่งสินค้า จัดการห่วงโซ่อุปทาน Call center การทำการตลาดออนไลน์ การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ เป็นต้น

ปี64ผลงานแกร่ง

สำหรับปี 2564 บริษัทจะเพิ่มสินค้าใหม่ จาก 4,288 SKU เป็น 27,000 SKU เน้นกลุ่มเพื่อสุขภาพ เครื่องครัว และของใช้ในครัวเรือน ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่เติบโตสูงในตลาด Online

และในช่วงไตรมาส1/2564 จะได้ช่อง TV ดาวเทียมคืน 1 3 ช่องเพื่อเป็นช่องจัดจำหน่ายสินค้า 24 ชั่วโมง ฐานลูกค้าส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มที่รับชมผ่าน TV แต่จะใช้ Know how จาก Momo ในการเปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้าให้มาอยู่บน Online มากขึ้น ทั้งบน Line, Facebook, Website และจะเปิดตัว Application ของบริษัทเองใน 1Q64 ปัจจุบันมีฐานลูกค้ากลุ่ม Online แล้ว 200,000 300,000 User เมื่อสัดส่วนรายได้ Online ทยอยเพิ่มขึ้น จะทำให้ SG&A ของบริษัทลดลงเพราะพึ่งพาพนักงานน้อยลง ทำให้ NPM เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่เพียง 1.5 2.5% เท่านั้น

ส่วน B2B จะใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ของ Tri-Stage มาพัฒนาบริการให้ลูกค้าองค์กร ทำให้ลูกค้าเก่าทยอยเพิ่มงานมากขึ้น และได้ลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง ทั้งนี้เปิดโอกาสในการ M&A ธุรกิจที่ใกล้เคียงกันเพื่อการเติบโตแบบก้าวกระโดด

โบรกชูหุ้นเติบโต

อย่างไรก็ดีบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2564 ที่ 4,400 ล้านบาท สมมติฐาน NPM ที่ 2.0%, 2.2% และ 2.5% ได้กำไรปกติที่ 88 ล้านบาท, 97 ล้านบาท และ 110 ล้านบาทตามลำดับ โดยเติบโต 46 - 83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนบนสมมติฐานกำไรปี 2563 ที่ 60 ล้านบาท คิดเป็น EPS (Fully dilution) ที่ 0.09 บาท, 0.10 บาท และ 0.12 บาท ตามลำดับ

อิง PER 15 20 เท่า ได้ราคาเหมาะสมเบื้องต้นปี 2564 ที่ 1.42 2.37 บาท โดยมีค่ากลางที่ 1.67 บาท ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER64 ประมาณเพียง 10 เท่า เทียบในอดีตช่วงผลประกอบการดีอยู่ที่ 20 เท่า  โดยฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจบริษัท ราคาหุ้นมี Downside risk จำกัด ซื้อขายที่ PBV เพียง 1 เท่า และ PER64 ต่ำเพียง 10 เท่า เป็นหุ้นเติบโต และราคาตลาดยังต่ำกว่าราคา Big lot ให้Momo.com Inc. ที่ 1.13 บาท