ทันหุ้น-GTB คว้าออเดอร์ใหม่เข้าพอร์ตมากกว่า 100ล้านบาท เล็งซื้อกิจการในต่างแดนพร้อมเดินหน้าประมูลงานต่อเนื่องมั่นใจภาคอุตสาหกรรมกลับมาเดินเครื่องผลิตสินค้าและขยายกำลังผลิตมากขึ้น คาดปี 2564 รายได้เติบโต 10 -15% ปรับกลยุทธ์พัฒนาสินค้าผลิตภัณฑ์ ให้มีความหลากหลายเพื่อรองรับลูกค้าในทุกตลาด

นายสุชาติ มงคลอารีย์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจตาแบค จำกัด (มหาชน) หรือ GTB เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเเครื่องกำเนิดไอน้ำแบบท่อน้ำ ขนาด 100 TPH (โครงการ BANGKOK COGENERATION SPP REPLACEMENT RAYONG, THAILAND (BCC2) ) มูลค่าโครงการมากกว่า 100 ล้านบาท จากบริษัท THAI JURONG ENGINEERING LIMITED (บริษัทในเครือ JURONG ENGINEERING LIMITED ประเทศสิงคโปร์) โดยมีกำหนดส่งมอบสินค้า ณ จังหวัดระยอง ภายในไตรมาส 4/2564และยังอยู่ระหว่างติดตามงานอื่นๆเพิ่มเติม

อย่างไรก็ดีบริษัทคาดในปี 2564 จะมีงานออกมาให้ประมูลมากขึ้น จากลูกค้าทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เนื่องจากอุตสาหกรรมหลายกลุ่มกลับมาเดินเครื่องผลิตสินค้า และขยายกำลังการผลิตมากขึ้น เบื้องต้นบริษัทคาดจะมีงานใหม่ ให้ยื่นเสนอราคาหลายโครงการ มูลค่ารวมหลักพันล้านบาท และบริษัทคาดจะได้งานเข้ามาหลักร้อยล้านบาท

เล็งซื้อกิจการต่างแดน

นอกจากกลยุทธ์การรักษาฐานลูกค้าเดิม และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่แล้ว บริษัทมีแผนขยายธุรกิจโดยการซื้อกิจการที่ใกล้เคียงกับบริษัท ซึ่งเป็นบริษัทอยู่ในประเทศกลุ่ม CLMVปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาแผนการลงทุน ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบและหาบริษัททำดีลดีรีเจนท์ หากเป็นไปตามแผนคาดจะเห็นความชัดเจนได้ในปี 2564

สำหรับเงินลงทุนคาดว่าจะใช้ไม่มาก หรือไม่จำเป็นต้องลงทุนเป็นหลักพันล้านบาท เพราะบริษัทต้องการลงทุนแบบดาวกระจาย หรือกระจายความเสี่ยงไปสู่พื้นที่อื่น มากกว่าการทำธุรกิจที่กระจุกตัวกันอยู่เพียงที่เดียว

ทางด้านนายประจินต์ คงสาคร กรรมการบริหาร บริษัท เจตาแบค จำกัด (มหาชน) หรือ GTB กล่าวว่าแนวในช่วงไตรมาส 4/2563 เชื่อว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทมีสินค้าที่มีความหลากหลายและสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ และปัจจุบันบริษัทยังมีงานในมือ (Backlog) ราว 498.3 ล้านบาท

คาดปีหน้ารายได้โต15%

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2564 คาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 10 -15% โดยจะเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้มีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อรองรับลูกค้าในทุกตลาด โดยจะเพิ่มบอยเลอร์ (Boiler)ขนาดเล็กมากขึ้น หลังปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า เช่น น้ำมัน แก๊ส ถ่านหิน เป็นต้น

ขณะที่ในต่างประเทศได้มองไปยังที่ประเทศเวียดนาม เนื่องจากมองว่ามีศักยภาพในการเติบโตที่ดี ซึ่งบริษัทมีสาขาย่อยอยู่ที่ประเทศเวียดนามตอนใต้ และมีแผนขยายเข้าไปสู่เวียดนามตอนเหนือ รวมถึงประเทศเมียนมา มองว่าอุตสาหกรรมยังมีการขยายตัวอยู่แม้มีสถานการณ์โควิด-19กดดัน หลังรัฐบาลของทั้ง 2ประเทศได้เปิดให้นักลงทุนเข้าไป

โดยเบื้องต้นบริษัทจะจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนตัวจำหน่ายของแต่ละประเทศนั้นๆเช่นกัน  และจัดหาตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ ขยายขอบเขตการขายและให้บริการเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ในไทยทั่วทุกจังหวัด อีกทั้งยังเดินหน้าขยายธุรกิจไปยังประเทศในกลุ่ม CLMV อีกด้วย