> SET > AAV

17 ธันวาคม 2020 เวลา 08:45 น.

AAVบินในประเทศครบ เงินสดดีขึ้นแต่ไม่คุ้มทุน

ทันหุ้น –AAVปลื้มนโยบายภาครัฐกระตุ้นคนเที่ยวในประเทศจนสามารถเปิดเส้นทางบินในประเทศได้เต็ม 100% ทำให้มีกระแสเงินสดหมุนเวียนดีขึ้น แต่ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุนจนกว่าจะสามารถเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศไทย ย้ำนโยบายบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยได้ช่วงครึ่งหลังของปี 2564


นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียเอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV และสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศทยอยฟื้นตัว ประกอบกับเข้าสู่ช่วงวันหยุดทำให้ประชาชนเริ่มดินทางท่องเที่ยว – จับจ่ายใช้สอย และภาครัฐบาลจัดชุดมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ทั้งโครงการคนละครึ่ง, ช้อปดีมีคืน และเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งถึงเป็นแรงกระตุ้นที่ดี ส่งผลให้ประชาชนมีความมั่นใจจึงจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น


*เปิดเส้นทางบิน 100%


ส่งผลให้ ณ ปัจจุบันสายการบินแอร์เอเซีย สามารถเปิดบินเส้นทางภายในประเทศด้วย Capacity เต็ม 100% ประกอบกับการโปรโมชั่น ขยายโอกาสการหารายได้เช่น SNAP แพคเก็จโรงแรมท่องเที่ยว ทำให้มีสภาพคล่องและกระแสเงินสดเข้ามาหมุนเวียนในธุรกิจที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามสายการบินไทยแอร์เอเซียยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อประคองตัวอยู่ในสถานการณ์โควิด-19 ได้


พร้อมกันนี้คาดการณ์ว่า ประชาชนจะเริ่มมีความมั่นใจ และเริ่มเดินทาง, ท่องเที่ยวระหว่งประเทศไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 โดยมีพัฒนาการ และผลสำเร็จของวัคซีนโควิด-19 เป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญ ทั้งนี้ทางบริษัทมั่นใจว่าเมื่อสามารถกลับมาเปิดเส้นทางบินประจำระหว่างประเทศได้ ก็จะเป็นสัญญาณที่สดใสของธุรกิจอีกครั้ง


*ลุ้นเส้นทางบินระหว่างประเทศ


บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด ระบุถึงหุ้นกลุ่มสายการบิน ว่า แนวโน้มไตรมาส 4/2563 และปี 2564 กลุ่ม ยังมีผลขาดทุนต่อเนื่อง เนื่องจากถูกกดดันจากเส้นทางบินระหว่างประเทศที่ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ แม้หลายประเทศเริ่มทยอยฉีดวัคซีนให้ประชาชน แต่เชื่อว่าต้องใช้เวลาในการกระจายวัคซีนทั่วโลก และมีความไม่แน่นอนจากผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีนอาจทำให้ความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดล่าช้าออกไป และประเทศไทยยังมีปัจจัยลบจากสถานการณ์การเมืองในประเทศกดดันความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงยังคาดการฟื้นตัวของเส้นทางบินระหว่างประเทศจะเกิด (อย่างมีนัยสำคัญ) อย่างเร็วในครึ่งปีหลัง 2564


ขณะที่สภาพคล่องในการดำเนินงานยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของกลุ่มฯ จากที่มี 2 บริษัทในกลุ่มประสบปัญหาสภาพคล่องและเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการแล้ว (THAI และ NOK) ส่วนอีก 3 บริษัทที่เหลือ มองว่า AAV มีความเสี่ยงในการจัดหาแหล่งเงินทุนมากที่สุด เนื่องจาก 1. ณ สิ้นไตรมาส 3/2563 บริษัทลูก (สายการบินไทยแอร์เอเชีย) มีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ -2,003 ล้านบาท และ 2.AAV เป็น Holding Company จึงมีสินทรัพย์ที่จะนำไปค้ำประกันเพื่อขอวงเงินจากสถานบันการเงินไม่มาก


ส่วน BA ยังมีเงินลงทุนใน BDMS และ BAFS มูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ และ AOT ณ สิ้น เดือนกันยายน 2563 มีเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวมูลค่าราว 4 หมื่นล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำ 0.2 เท่า


*ราคาหุ้นสะท้อนผลประกอบการ


อย่างไรก็ตาม เชื่อราคาหุ้นกลุ่มการบินสะท้อนความคาดหวังผลประกอบการฟื้นแล้ว โดยราคาหุ้นกลุ่มสายการบิน (AAV และ BA) กลับมาซื้อขายสูงกว่า -1SD ของค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนที่จะเกิดสถานการณ์ COVID-19 แล้ว และหุ้น AOT กลับมาซื้อขายที่ราว +1SD ใกล้เคียงกับช่วงก่อนที่จะเกิดสถานการณ์ COVID-19แล้ว


สำหรับหุ้นกลุ่มสายการบิน ยังไม่ให้น้ำหนักต่อการกลับไปซื้อขายที่ค่าเฉลี่ย (Mean) ของค่า PBV ย้อนหลังเนื่องจากคาดผลประกอบการปี 2564 ยังคงขาดทุนต่อเนื่องจากปี 2563 (vs ปี 2560 ที่กลุ่มสายการบินซื้อขายที่ PBV สูงกว่า Mean นั้นกลุ่มการบินมีผลกำไรสุทธิกว่า 20,842ล้านบาท)

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X