ทันหุ้น-UAC  ปีหน้าเป้ารายได้โต 10% ธุรกิจเทรดดิ้งฟื้นตัว เตรียมต่อยอดปาล์มน้ำมัน ทำผลิตภัณฑ์ไฮมาร์จิ้น พร้อมเดินหน้าเจรจาลูกค้าทำ Energy Efficiency ให้ลูกค้า หวังโตต่อเนื่องระยะยาว พร้อมลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน มั่นใจมีศักยภาพดำเนินการ ผลักดันROE เกิน 20%  ฟากโบรกมองกำไรปี 64แตะ 243 ล้านบาท ประเมินราคาเหมาะสมที่ 4.70บาท มีอัพไซด์โรงไฟฟ้าชุมชนอีก 0.42 บาท ต่อหุ้น

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า ปี 2564 คาดว่ารายได้จะเติบโตได้10% โดยปีหน้าธุรกิจหลักที่จะมีการเติบโตได้ดีคือธุรกิจเทรดดิ้งที่ลูกค้ากลับมาสั่งซื้อมากขึ้น หลังแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดี นอกจากนี้ธุรกิจไบโอดีเซลยังมีความต้องการเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ยังมีโอกาสที่จะต่อยอดปาล์มน้ำมัน ไปทำผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงมากขึ้น เช่น ไบโอเคมีคอล ซึ่งรองรับการเติบโตในระยะยาว และมีโอกาสที่จะผลักดันมาร์จิ้นสูงขึ้นด้วย

*ลุย Energy Efficiency

พร้อมกันนี้ยังเดินหน้าในการขยายธุรกิจในด้าน Energy Efficiency ซึ่งเป็นการเข้าไปดำเนินการในด้านพลังงานให้แก่ลูกค้าเพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานมากที่สุด มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้มีการเจรากับลูกค้าหลายราย โดยธุรกิจดังกล่าวมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่อง รูปแบบธุรกิจอาจจะเป็นการเข้าไปดำเนินการให้แก่ลูกค้า และให้ลูกค้าจ่ายเป็นค่าบริการทำให้เป็นรายได้ที่จะเข้ามาต่อเนื่องในระยะยาว โดยคาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน(IRR) มากกว่า 10% ส่วนเงินลงทุนนั้นบริษัทมีเพียงพอมีกระแสเงินสดรองรับเรียบร้อยแล้ว

“ปีหน้าโครงการที่บริษัทจะทำคือ Energy Efficiency เป็นงานขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ที่ยังมีความต้องการในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และเป็นโอกาสที่จะสร้างการเติบโตได้ต่อเนื่อง ตอนนี้ก็มีการเจรจากับลูกค้าบ้างแล้ว และคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาปีหน้า เชื่อว่าธุรกิจดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนที่ดี แต่โครงการขนาดใหญ่ที่บริษัทรอคงเป็นเรื่องของโรงไฟฟ้าชุมชน”นายชัชพล กล่าว

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนของภาครัฐ เป็นโครงการที่บริษัทรอดำเนินการ แต่ทั้งนี้ยังคงต้องรอความชัดเจนจากทางภาครัฐ แต่บริษัทก็มีความพร้อม ปัจจุบันก็มีโครงการโรงไฟฟ้าที่พร้อมเข้าระบบแล้ว 3 เมกะวัตต์ และยังมีโอกาสที่จะทำเพิ่มอีกราว 10 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเจรากับชุมชนเรียบร้อยแล้ว หากโครงการสามารถเดินหน้าได้บริษัทก็พร้อมจะดำเนินการทันที ซึ่งเป็นอีกโครงการที่จะสร้างรายได้เข้ามาให้แก่บริษัท และสนับสนุนการเติบโตระยะยาว ซึ่งบริษัทก็มีเป้าหมายที่จะมี ROE (Return On Equity) เกิน 20% จากปัจจุบันที่ประมาณ 15-16%

*ปีหน้ากำไรเติบโตต่อ

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุถึง UAC ว่า คาด ไตรมาส 4/2563 ยังได้แรงหนุนจากบริษัทร่วม จากราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับขึ้น ถึงแม้ธุรกิจ Trading อาจจะยังไม่ฟื้นตัว แต่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาใกล้เคียงกับ ไตรมาส 1/2563 ที่ 70-80 ล้านบาท (Fig 2) เนื่องด้วยปัจจุบัน QTD ราคาน้ำมันปาล์ม (CPO) ปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 34 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับราคาในช่วง ไตรมาส 1/2563 โดยแรงพลักดันราคาน้ำมันปาล์ม ทั้งจากการสนับสนุนของรัฐบาลฯ ในการใช้ B10 และตามราคาน้ำมันถั่วเหลืองที่ปรับขึ้น (น้ำมันปาล์มเป็นสินค้าทดแทนน้ำมันถั่วเหลืองในการบริโภค   

ดังนั้นแล้วยังคงประมาณการกำไรปี 2563 และ 2564 ที่ 215 ล้านบาทและ 243 ล้านบาท +13.6% และ 14.2% ตามลำดับ โดยการเติบโตในปี 2563E มาจากธุรกิจ bio diesel ที่ราคา CPO ปรับเพิ่มกว่า 40% YoY และในปี 2564E ธุรกิจ Trading กลับมาฟื้นตัว +10%

ทั้งนี้คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 4.70 บาท ด้วย PE Ratio ที่ 13 เท่า เทียบเท่า Avg PE-0.5 SD ด้วยมุมมองที่ conservative ซึ่งประเมินว่าธุรกิจ Trading น่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัว +10% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ได้ในปี 2564 หลังจากที่ช่วงต้นปี 2563 ได้รับผลกระทบจาก lock down และยังมี upside จากโรงไฟฟ้าชุมขน 3 เมกะวัตต์ ต่อหุ้นประมาณ 0.42 บาทต่อหุ้น