> SET > RBF

07 มกราคม 2021 เวลา 10:17 น.

RBFรายได้ปี64โต10% ทุ่ม250ล.ผุดรง.อินโดฯ

ทันหุ้น – RBF วางเป้ารายได้รวมปี 2564 เติบโต 5-10% ยิ้มรับออเดอร์ไทย-อินโด-เวียดนามล้นมือ แย้มอยู่ระหว่างพิจารณาทำเลสร้างโรงงานผลิตใหม่ในอินโด คาดปลายไตรมาส 1/2564 ได้ข้อสรุป มูลค่าลงทุนไม่เกิน 250 ล้านบาท ด้านธุรกิจโรงแรมโดนพิษโควิด-19 แต่ไม่กดดันผลงานรวม


นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมปี 2564 เติบโต 5-10% จากปีก่อน แม้ว่าในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2563 ไวรัสโควิด-19 จะกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง แต่ในระยะสั้นยังมองไม่เห็นถึงผลกระทบต่อธุรกิจ เนื่องจากบริษัทยังคงเดินเครื่องผลิตและส่งมอบคำสั่งซื้อให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ขณะที่ในระยะยาวคงต้องจับตารอดูการระบาดและมาตรการป้องกันของภาครัฐต่อไป


ประกอบกับในปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตอยู่ในประเทศไทย 7 แห่ง ทำให้มองว่าแม้ต้องมีการหยุดโรงงานบางแห่งไปแต่โรงงานผลิตที่เหลือยังสามารถปรับสายการผลิตเพื่อผลิตทดแทนส่วนที่ต้องหยุดไปได้ นอกจกานี้ บริษัทยังคงเดินหน้าขยายตลาดและฐานลูกค้าใหม่ ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ใหม่เกี่ยวกับสุขภาพเพื่อให้สอดรับกับเทรนการดูแลสุขภาพในปัจจุบัน ทำให้บริษัทได้รับความสนใจและอเดอร์ใหม่จากลูกค้าเข้ามาจำนวนมาก


*ตลาดอินโด-เวียนามยังโต

ส่วนตลาดในประเทศอินโดนีเซียและเวียดนามนั้น มองว่าในปี 2564 ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตแบบ 2 หลักได้อย่างต่อเนื่อง โดยในประเทศอินโดนีเซียบริษัทยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น เพราะมองว่าเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และมีความต้องการผลิตภัณฑ์วัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) อีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มเกล็ดขนมปัง แป้งและซอส (Food coating) และวัตถุแต่งรส และกลิ่น (Flavour) ซึ่งสอดคล้องตามการขยายตัวของครัวเรือน


และด้วยปัจจัยดังกล่าวทำให้ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาทำเลในการลงทุนสร้างโรงงานผลิตในประเทศอินโดนีเซียเพิ่ม 1 แห่ง ซึ่งจะเข้ามารองรับการผลิตแป้งและซอส (Food coating) และวัตถุแต่งรส และกลิ่น (Flavour) ตามแผนที่วางไว้ แม้ว่าอาจมีความล่าช้าไปบ้างเพราะปัจจัยการแพร่ระบาดของไวัรสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางดำเนินการด้านเอกสารได้ แต่คาดว่าภายในปี 2564 นี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เบื้องต้นบริษัทวางเงินลงทุนไว้ที่ไม่เกิน 200-250 ล้านบาท


ขณะที่ประเทศเวียดนามบริษัทคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในสายการผลิตที่ 2 ได้ภายในช่วงปลายไตรมาส 1/2564 หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกินไตรมาส 2/2564 รองรับออเดอร์ที่มีเข้ามาเพิ่มขึ้น


*โควิดกระทบรร.เล็กน้อย

ในด้านธุรกิจโรงแรมทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมโนโวเทล จังหวัดชุมพร และโรงแรมไอบิสสไตล์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งโรงแรมทั้ง 2 แห่งได้เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้แนวโน้มการเข้าพักนักท่องเที่ยวในประเทศดีขึ้น แต่ด้วยการกลับมาแร่พระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2563 ทำให้ธุรกิจโรงรมยังคงได้รับผลกระทบในปัจจัยข้างต้นอยู่ แต่อย่างไรก็ดีธุรกิจโรงแรมคิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่ต่ำกว่า 2% ของรายได้รวม ทำให้มองว่าจะไม่กดดันต่อผลการดำเนินงานในปี 2564 อย่างมีนัยสำคัญ


"เราวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมปี 2564 ไว้แบบ Single Digit หรืออาจจะ Double Digits ขึ้นอยู่กับว่าวัคซีนต้านจะเข้ามาคลี่คลายปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เร็วมากน้อยแค่ไหน แต่ในส่วนของธุรกิจเรายังคงมียอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของลูกค้า และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เน้นในด้านสุขภาพมากขึ้นทำให้ได้รับความสนใจและคำสั่งซื้อใหม่ๆ เข้ามาเพิ่ม แม้ว่าธุรกิจโรงแรมจะได้รับผลกระทบแต่เชื่อว่าจะไม่มีผลกดดันต่อผลการดำเนินงานโดยรวม เพราะสัดส่วนรายได้ต่ำกว่า 2% และส่วนใหญ่มากกว่า 70-75% ยังคงเป็นกลุ่ม Food coating และ Flavour" นายสุรนาถ กล่าว


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X