> SET > AMA

12 มกราคม 2021 เวลา 09:00 น.

AMAโควิดรอบใหม่ไม่กระทบ เร่งทำดีลM&Aหนุนฐานแกร่ง

ทันหุ้น – AMA ลั่นโควิด-19 รอบใหม่ไม่กระทบ ชี้ขนส่งทางบก-เรือวิ่งได้ตามปกติ ฟากบอสใหญ่ “พิศาล รัชกิจประการ” เผยยังเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมสั่งเพิ่มรถรับบริการลูกค้าหลัก PTG เตรียมเร่งทำดีล M&A ธุรกิจโลจิสติกส์ภายในปีนี้ หวังดันฐานขนส่งทางบกแข็งแกร่ง พร้อมโชว์กองเรือปัจจุบัน 10 ลำ น้ำหนักบรรทุกรวม 9.2 หมื่นเดทเวทตัน


นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่ไม่ส่งผลต่อการขนส่งทางบก และทางเรือ เนื่องจากการแพร่ระบาดอยู่ภายในประเทศ ขณะที่การขนส่งทางบก หรือขนส่งโดยรถบรรทุกยังสามารถดำเนินการได้ปกติ ไม่มีล็อกดาวน์ ประกอบการการขนส่งทางน้ำ หรือขนส่งทางเรือดำเนินการขนส่งสินค้าต่างประเทศ ซึ่งการขนส่งยังสามารถทำได้ตามปกติ บริษัทจึงประเมินว่าสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่ครั้งนี้จะยังไม่ส่งผลต่อธุรกิจของบริษัท


เกาะติดสถานการณ์


แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์โควิด-19 อย่างใกล้ชิด รวมถึงนโยบายจากภาครัฐ เพื่อดูผลการดำเนินงาน และปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ พร้อมกันนี้บริษัทจะเดินหน้าเพิ่มรถบรรทุก สำหรับให้บริการขนส่งทางบก โดยวางแผนจะเพิ่มรถรถเซมิเทรเลอร์อีก 20 คัน เป็น 256 คัน จากสิ้นปี 2563 คาดจะมีจำนวนรถครบ 236 คัน อีกทั้งจะเพิ่มรถ 10 ล้อ อีก 20 คัน เพื่อรองรับการขนส่ง และการขยายฐานลูกค้าหลักอย่าง บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG


สำหรับทิศทางการขนส่งทางบก บริษัทคาดจะขนส่งได้ตามแผน เนื่องจากยังไม่มีอุปสรรคหรือปัญหาในการดำเนินงาน ขณะเดียวกันบริษัทจะเกาะติดราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการขนส่ง ส่วนการขนส่งทางเรือ ในไตรมาส 1/2564 จะมีเรือขึ้นอู่ หรือซ่อมบำรุงจำนวน 3 ลำ ตามรอบการบำรุงรักษา คาดจะส่งผลต่อผลประกอบการการขนส่งทางเรือในไตรมาส 1/2564 ไปบ้าง


เล็งเพิ่มเรืออัพยอด


ทั้งนี้ในปี 2564 บริษัทจะผลักดันแผนการซื้อเรือใหม่ให้เกิดขึ้นในปี 2564 เช่นเดียวกัน เพราะปีนี้บริษัทขายเรือ 2 ลำ น้ำหนักบรรทุกรวมเกือบ 1 หมื่นเดทเวทตัน หากบริษัทสามารถดำเนินการซื้อเรือได้เร็ว คาดเรือใหม่ที่มาทดแทนเรือที่ขายออกไปจะช่วยสนับสนุนให้ปริมาณการขนส่งกลับสู่ระดับใกล้เคียงปีนี้ ปัจจุบันบริษัทมีกองเรือทั้งหมด 10 ลำ กำลังน้ำหนักบรรทุกรวม 9.2 หมื่นเดทเวทตัน


นอกจากนี้บริษัทจะพยายามผลักดันการควบรวมกิจการ (M&A) ธุรกิจโลจิสติกส์หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องให้ประสบผลสำเร็จ เพื่อผลักดันฐานการขนส่งทางบกและการเติบโตปี 2564 ให้แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น เบื้องต้นบริษัทจำทำดีล M&A ให้ได้ภายในปีนี้ จากเดิมคาดจะเห็นความชัดเจนประมาณกลางไตรมาส 2 หรือปลายไตรมาส 2/2564 หรืออาจจะล่าช้าไปอีกสักระยะ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยังเป็นตัวกดดันในการทำดีลดังกล่าว


ปั๊มรายได้โตต่อ


ในปี 2564 บริษัทคาดทิศทางผลประกอบการจะเติบโตสูงกว่าปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามการขนส่งทางบก และทางเรือที่จะขยายตัวเมื่อเทียบกับปี 2563 เพราะปี 2563 บริษัทได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนึ่งไตรมาส ขณะเดียวกันบริษัทมั่นใจภาพรวมรายได้ในปี2563 จะเติบโตต่อจากปี 2562 ที่ 1.9 พันล้านบาท แต่อาจจะเติบโตเพียงตัวเลขหลักเดียว จากต้นปี 2563 บริษัทตั้งเป้าจะเติบโตสองหลัก และบริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน 21.59% จากการให้บริการขนส่งทางเรือและรถ อนึ่ง 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีรายได้ที่ 1.37 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 131.06 ล้านบาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X