> SET >

12 มกราคม 2021 เวลา 09:53 น.

SCBS เปิดโผ 10 หุ้นเทรนด์อนาคต ชี้เป้าหุ้นไทยอิงพื้นฐานปีนี้ที่ 1,450-1,500 จุด

ทันหุ้น - บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) ประเมินตลาดหุ้นไทยโดยรวมในปี 2564 มีแนวโน้มดีขึ้น จากภาพความคาดหวังของการฟื้นตัวของธุรกิจและเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีประเด็นข่าวดีเรื่องวัคซีนและเงินทุนต่างชาติไหลเข้าเป็นปัจจัยกระตุ้นอย่างไรก็ตาม ความผันผวนจะยังคงอยู่จาก Market Risk ที่สูงขึ้น โดยประเมินเป้า SET Index ที่เหมาะสมอ้างอิงปัจจัยพื้นฐานอยู่ที่ 1,450 -1,500 จุด แต่ด้วยภาพของกระแสเงินไหลเข้าทำให้ SET Index บางช่วงเวลามีโอกาสแกว่งตัวขึ้นไปเกินกว่าระดับดังกล่าว 5-10% 


สำหรับกลยุทธ์การลงทุนใน 1Q64 เน้นเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจมากขึ้น รวมถึง ซื้อสะสมหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์ในอนาคต ได้แก่ พลังงานสะอาด การดูแลสุขภาพ และ การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีหุ้นแนะนำ ได้แก่ BDMS EA MINT SCGP SPALI IIG IP THREL TNP WICE


นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS)กล่าวว่า ปี 2564 เป็นปีของความคาดหวังการฟื้นตัวของธุรกิจและเศรษฐกิจจาก COVID-19 หลังจากเริ่มมีการแจกจ่ายวัคซีน แต่อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนในวงกว้างอาจจะทำได้ไม่เร็ว ดังนั้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและยังไม่กลับไปเป็นปกติดังเช่นก่อนเกิด COVID-19 ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการฟื้นตัวหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเศรษฐกิจจีนและสหรัฐจะมีการฟื้นตัวเร็ว ส่วนยุโรป ญี่ปุ่น และไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วแต่จะฟื้นตัวช้าเนื่องจากต้องพึ่งพาความต้องการจากต่างประเทศและการท่องเที่ยวสูง นอกจากนั้นนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะเป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนการฟื้นตัว


ด้านเศรษฐกิจไทยปี 2564 คาดการณ์ว่า GDP จะเติบโต 3% YoY โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกเป็นสำคัญหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19ในปีที่ผ่านมา ได้เห็นการปรับตัวของหลายๆ อุตสาหกรรมในประเทศไทยและมองว่าอุตสาหกรรมที่จะเห็นการฟื้นตัวอย่างโดดเด่น ปี 2564 คือ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี, ประกัน, อาหาร, บรรจุภัณฑ์, การแพทย์ และขนส่งทางบก สำหรับกลุ่มโรงแรมและสายการบินอาจจะเห็นการฟื้นตัวอย่างโดดเด่นเช่นกัน แต่ยังมองว่าผลประกอบการน่าจะยังขาดทุนต่อเนื่องจากปีก่อนสำหรับการระบาดของ COVID-19 รอบใหม่ในปัจจุบัน เชื่อว่าทุกภาคส่วนมีความพร้อมในการรับมือมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ภาคการท่องเที่ยวยังคงได้รับผลกระทบมากทำให้คาดว่าการฟื้นตัวจะเริ่มเห็นใน 4Q64 เป็นต้นไป


ด้านตลาดหุ้นไทยในปี 2564 มีแนวโน้มสดใสกว่าปี 2563 จากความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่ลดลง เนื่องจากอยู่ในช่วงของผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวต่อเนื่องถึงปี 2565 โดยเฉพาะธุรกิจที่ขึ้นกับวัฏจักรเศรษฐกิจ (พลังงาน ปิโตรเคมี ธนาคาร การบริโภค และ การท่องเที่ยว เป็นต้น)โดยคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนจะฟื้นตัว 40% YoY ในปี 2564และ 19% YoY ในปี 2565อย่างไรก็ตาม ความผันผวนจะยังอยู่จากระดับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเร็วและความเสี่ยงภายนอกที่สูงขึ้น ประเมินระดับเหมาะสมของ SET Index ปี 2564 อยู่ที่ 1,450-1,500 จุด อ้างอิงจากปัจจัยพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม คาดว่า SET Index ในบางช่วงเวลามีโอกาสแกว่งตัวขึ้นไปเกินกว่าระดับดังกล่าว 5-10% จากปัจจัยหนุนของสภาพคล่องในตลาดการเงินที่สูง เงินทุนต่างประเทศที่กลับเข้ามาลงทุน และความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานที่ต่อเนื่องถึงปี 2565


กลยุทธ์การลงทุนไตรมาสแรกปี 2564 เน้นเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจมากขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึง ซื้อสะสมหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์ในอนาคต ได้แก่ พลังงานสะอาด การดูแลสุขภาพ และ การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีหุ้นแนะนำได้แก่


· BDMS :Healthcare เทรนด์นี้ไม่มี Out: บริษัทรุกตลาดผู้ป่วยมีประกันช่วยหนุนกำไรยั่งยืน ขณะที่คาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดยปี2564คาดกำไรปกติจะพลิกเติบโต29%YoY ส่วนปัจจัยที่ติดตามคือการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติจากมาตรการล็อคดาวน์ การแข่งขันในกลุ่ม รพ. เอกชนระดับบน และ มาตรการภาครัฐ เช่น การคุมราคายาและค่ารักษา


· EA :New S-Curve จากธุรกิจแบตเตอรี่: ในอีก3-5ปีข้างหน้างบลงทุนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ธุรกิจแบตเตอรี่ซึ่งมองว่าเป็นธุรกิจพลังงานใหม่และสะอาดที่มีศักยภาพเติบโตสูงในอนาคต ส่วนปัจจัยที่ติดตามคือการลงทุนขนาดใหญ่ในโรงงานแบตเตอรี่เฟสที่2 การส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าคาดว่าจะเกิดขึ้นใน2H64และการประมูลรถโดยสารประจำทางจำนวน 3,000 คัน ใน1Q64


· MINT :ปรับตัวเร็วในภาวะวิกฤติ: คาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวเด่นหลังสถานการณ์COVID-19ดีขึ้น อีกทั้งบริษัทยังปรับตัวได้เร็วทั้งการเพิ่มทุนและออกPerpetual Debentureปีก่อนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและการคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มข้นปัจจัยที่ติดตามคือการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงอาจจะกระทบต่อศักยภาพทำกำไรของโรงแรมและการแข็งของค่าเงินบาท


· SCGP :ผู้นำธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในอาเซียน: กำไรปกติคาดเติบโตแกร่งเฉลี่ยปีละ 16% ในปี2562-2565จากกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นอัตรากำไรที่สูงขึ้นและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงหลังจากชำระคืนหนี้ส่วนปัจจัยที่ติดตามคือการแข่งขันในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ และทิศทางต้นทุนวัตถุดิบเศษกระดาษรีไซเคิล(RCP)


· SPALI :หุ้นที่อยู่อาศัยที่ไม่ควรมองข้าม: ปี 2564 คาดมีกำไรสุทธิ 5.1 พันลบ. เติบโต 29% YoY สูงสุดของกลุ่มขณะที่ผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจราวปีละ6% ส่วนปัจจัยที่ติดตามคือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและการตอบรับของ Presales ในโครงการใหม่ ความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อและ Rejection Rate


· IIG :ผู้นำในยุค Digital Transformation :อยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโตชัดเจนโดยเฉพาะการทำCRM (60%ของรายได้) จากระบบซอฟต์แวร์ของSalesforce ซึ่งมีการเติบโตในระดับ25-30%ต่อปีส่วนปัจจัยที่ติดตามคือ กระแสตอบรับของธุรกิจใหม่ที่เป็น Recurring Income ทั้งหมด ข้อสรุปของงานที่อยู่ใน Pipelineว่าเซ็นต์สัญญาได้เร็วแค่ไหน


· IP :โภชนบำบัดเทรนด์นี้จะมาแรง : เป็นผู้นำธุรกิจโภชนบำบัดซึ่งมีโอกาสเติบโตในระยะยาวจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและพฤติกรรมผู้บริโภคที่ดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปี2564คาดกำไรโตเด่นกว่า 50%YoY ปัจจัยที่ติดตามคือ สินค้าใหม่ออกได้ตามแผนที่กำหนดหรือไม่ การแข่งขันที่สูงในธุรกิจสุขภาพและกระแสความนิยมในสินค้าที่อาจเปลี่ยนแปลง และการจับมือกับพันธมิตรเพื่อทำธุรกิจใหม่ๆ


· THREL :กำไรฟื้นตัวแรง :ปี 2564 คาดกำไรพลิกฟื้นโต 90% จากการหายไปของการตั้งสำรองพิเศษและค่าสินไหมทดแทนจากสัญญาที่ได้ยกเลิกไปรวมทั้งการคุมคุณภาพช่วยลดloss ratio จากผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพส่วนการฟื้นตัวของตลาดทุนและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลคาดหนุนROI ฟื้นตัวปัจจัยที่ติดตามคือ กำลังซื้อฟื้นตัวช้ากว่าคาด Combined Ratio ผันผวนตาม Loss Ratio และ ROI ผันผวนตามตลาดทุนและผลตอบแทนพันธบัตร


· TNP : Local Modern Tradeเติบโตในรูปแบบที่แตกต่าง: เป็นหุ้นค้าปลีกไม่กี่บริษัทที่ปี2564คาดกำไรโตต่อในระดับสองหลักคือ 13.5% จากปี2563ที่คาดโตเด่นแล้ว 44.4%YoY จากการรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ 4-5 แห่งปัจจัยที่ติดตามคือ กำลังซื้อฟื้นตัวช้ากว่าคาด และการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่


· WICE : ธุรกิจ Logistic ในเอเชียยังเติบโตได้ดี: กำไรอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยปี2564คาดกำไรโต 13.8% จากปี2563ที่คาดโตเด่นเกือบ 2 เท่า แรงหนุนจากการฟื้นตัวของปริมาณขนส่งชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์บวกกับดีมานต์ขนส่งสินค้าข้ามแดนยังเพิ่มขึ้นในตลาดจีนและอาเซียนปัจจัยที่ติดตามคือ ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ การขยายตัวของเศรษฐกิจ และการแข่งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจ


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X