ที่มา ในวลีจั่วหัว…  เคยกล่าวไว้แล้วว่า มันอาจจะไม่ใช่แค่พื้นฐาน หรือ เทคนิค หรือ ทั้งสองอย่างเท่านั้นก็ได้ ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่เขาอาจจะไม่ได้มอง หรือตั้งใจที่จะ ให้กราฟมันออกมาสวยก็ได้ หรือบางครั้ง การขึ้นการลงของราคา ก็ไม่ได้มาจากพื้นฐานจริงๆ เสียเลยทีเดียว… เว้นแต่ว่า หุ้นนั้นๆ จะเป็น หุ้นที่มี “ความเป็นมวลชนอย่างแท้จริง” เท่านั้น ก็อาจจะว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง ที่ตลาดจะว่ากันตามเทคนิค หรือเล่นกันด้วยพื้นฐาน… แล้วถามจริงๆ อย่าโกหกตัวเองก็แล้วกันนะ คิดว่ามีหุ้นตัวไหนบ้างในตลาดหุ้น (ตลาดหุ้นไทยนะ) ที่เป็นหุ้นมวลชนอย่างแท้จริงบ้าง ถ้ายังไม่มี (หรือมีน้อยมากๆ) เราก็ต้องเข้าใจในกฎ หรือเกมต่างๆ ที่เราเจอในตลาด ถ้าเราเข้าใจ เราก็จะยอมรับมันไปได้เอง แล้วก็จะหาวิธีหรือกลยุทธ์การเล่น มาว่ากันต่อไป… เรียกว่า ถ้าเรากำหนดทิศทางลมไม่ได้ เราก็จงปรับใบเรือแทนก็แล้วกัน แล้วก็อย่างที่กล่าว เราจะไม่ไเปลี่ยนเป้าหมาย แต่เราอาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการที่จะให้ไปถึงเป้าหมาย ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนไป อย่างการใช้เครื่องมือทางเทคนิค ที่ในยุคปัจจุบันนั้น เราๆ ท่านๆ ก็ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งในระยะ 15 ปี ที่ผ่านมานั้น ใช้กันแทบจะทุกวัยแล้วก็ได้… เอาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น Y2K หรือตั้งแต่ปี 2000 มาเลยนะ แรกๆ เหนือเมฆยังเห็นมีคนใช้เรื่องของเทคนิคน้อยมากๆ แต่ปัจจุบัน เดินไปทางไหน คุยเรื่องหุ้นกันเมื่อไหร่นั้น ยังไงก็ไใม่พ้นเรื่องของปัจจัยทางเทคนิคเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเรียนมาหรือรู้มา ก็คุยกันได้ทุกเวลาแหละ… แต่อย่าลืมนะครับ เรารู้เทคนิค ถ้าเขาจะทำอะไร เขาก็รู้นะ ว่าเรารู้อะไร… แล้วเขาจะทำอย่างไร ก็ง่ายขึ้น

ดูตามเกม… ถามว่า ถ้ามีผู้เล่นรายใหญ่ เข้ามาอยู่ในหุ้นตัวนี้นานมาแล้ว การลากขึ้นมา แล้วทำกราฟให้ดูสวยๆ งามๆ เข้าตาบาดตา… การขึ้นต่อเพื่ออะไร ก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าไม่หลุด(?) เราก็เล่น

แนวรับ : … 17.3-17.0 หรือ เราจะสู้ได้ถึงระดับ 16.0 ก็ยังได้

เป้าหมาย : …  ยืน 18.0 ได้ ก็ลุ้น 20.0-21.0 หรือ อาจถึง 22.0