> mai > MGT

18 มกราคม 2021 เวลา 09:10 น.

MGTใส่เกียร์ร่วมทุนพาร์ทเนอร์ ทุ่มงบลงทุน30ล.ผุดคลังสินค้า

ทันหุ้น – MGT ใส่เกียร์ร่วมทุนพาร์ทเนอร์ญี่ปุ่น ไม่หวั่นโควิด-19 รอบใหม่ ด้านผู้บริหาร “วิทยา อินาลา” ตั้งเป้ายอดขายปี 64 แตะ 960 ล้านบาท รับอานิสงส์บาทแข็ง ต้นทุนนำเข้าลด ทุ่มงบลงทุน 30 ล้านบาท ผุดคลังสินค้าใหม่ คาดกดปุ่มเริ่มใช้งานไตรมาส 3/64ยันผลงานปี 2563 ทำนิวไฮ


ดร.วิทยา อินาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGT เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปี 2564 บริษัทยังเดินหน้าร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ญี่ปุ่นเพื่อต่อยอดธุรกิจ โดยภายในเดือนมกราคมจะจดทะเบียนบริษัทให้สำเร็จ สำหรับชื่อบริษัทร่วมทุนคือ Mega fuji graphite มีทุนจดทะเบียน 35 ล้านบาท เป็นทุนเรียกชำระแล้ว 12 ล้านบาท พร้อมยืนยันทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 49% ส่วนที่เหลือคือพาร์ทเนอร์จากประเทศญี่ปุ่น 51% โดยบริษัทดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อทำการวิจัย พัฒนาและผลิต กราไฟต์ ในประเทศไทย เพื่อส่งออก


เดินหน้าร่วมทุน


ทั้งนี้แม้โควิด-19 รอบใหม่จะมีการแพร่ระบาด และมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในประเทศ รวมถึงประเทศญี่ปุ่นถูกล็อกดาวน์ไปราว 7 เมือง แต่การดำเนินงานร่วมกันยังเดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตามการร่วมมือดังกล่าวจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ และผลประกอบการจะไม่ส่งผลต่อผลประกอบการรวมของบริษัท เพราะบริษัทไม่ได้นำผลประกอบการมารวมกับการเติบโตของปี 2564


สำหรับภาพรวมรายได้ปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นแตะ 960 ล้านบาท ซึ่งเติบโตมาจากบริษัทใหญ่ หรือ บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) และบริษัทย่อยหรือ บริษัท เมกาเคมพลัส ประกอบกับบริษัทจะผลักดันอัตรากำไรปี 2564 ให้เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2563 โดยส่วนหนึ่งมาจากราคาต้นทุนที่ลดลง หลังจากค่าเงินบาทแข็งค่า และส่งผลดีต่อการนำเข้าเคมีภัณฑ์มาจำหน่ายในประเทศ


ขณะที่ทิศทางคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) จากลูกค้ารายใหญ่ โดยลูกค้าหลักคือกลุ่มยานยนต์ ซึ่งกลับมามีออเดอร์ในระดับปกติแล้ว และยังมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และบริษัทไม่ได้กังวลในเรื่องของออเดอร์ แต่บริษัทจะจับตาดูทิศทางการนำเข้า หรือการขนส่งสินค้าเข้ามาในประเทศ เพราะปัจจุบันหาตู้คอนเทรนเนอร์สำหรับขนส่งสินค้าค่อนข้างยาก


ผุดคลังสินค้าใหม่


ด้านแผนการลงทุนปี 2564 บริษัทตั้งบลงทุนไว้ที่ 30 ล้านบาท เพื่อสร้างคลังสินค้าสำหรับจัดเก็บเคมีภัณฑ์อันตราย คาดจะใช้เวลาก่อสร้างราว 6-7 เดือน และคาดจะให้บริการลูกค้าได้ประมาณไตรมาส 3/2564


ดร.วิทยา กล่าวต่อว่า บริษัทจะเกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและนอกประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อจะปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ขณะเดียวกันบริษัทมั่นใจแนวโน้มผลประกอบการปี 2563 จะทำสถิติใหม่สูงสุด หรือ นิวไฮ เนื่องจาก 9 เดือนแรกของปี 2563บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 82.90 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานรวมทั้งปีบริษัทปรับเป้าหมายรายได้ลดลงเหลือ 850 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 950 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้วที่ 603.15 ล้านบาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X