> พี่สอนน้องเล่นหุ้น > ILINK

20 มกราคม 2021 เวลา 06:20 น.

ILINK

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1530 จุด หลังจากปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับที่ 1500 จุด โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1530-1540 จุด แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1490 จุดลงไป จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ ILINK หรือ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนและ ผู้นำเข้าและค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ


ไตรมาสที่ 3 ปี 63 มีกำไรสุทธิ 54 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.102 บาท กำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 ที่กำไรสุทธิ 23 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.043 บาท


ในขณะที่ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 63 กำไรสุทธิ 184 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.342 บาท กำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 ที่กำไรสุทธิ 83 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.154 บาท

นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า "ผลประกอบการไตรมาส 3/63 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 นั้น กลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ มีรายได้รวมจำนวน 1,329.21 ล้านบาท ลดลง 27.57 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,835.04 ล้านบาท ในขณะที่กำไรสุทธิจากการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ มีจำนวน 74.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไร 32.18 ล้านบาท ตุนรายได้รวม 9 เดือน 3,942.38 ล้านบาท หลังบริษัทฯ มีงานเพิ่มขึ้น มีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งในแง่ของการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ มั่นใจแนวโน้มโค้งสุดท้ายไตรมาส 4 หนุนกำไรทั้งปี 2563 เติบโตดีอย่างแน่นอน"


สำหรับธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) ไตรมาส 3/63 มีรายได้รวมอยู่ที่ 558.59 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 44.97 ล้านบาท ภาพรวมรายได้ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ยังคงยืดเยื้อ รวมทั้งในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลมีการประกาศวันหยุดชดเชยหรือวันหยุดพิเศษเพิ่มเติมหลายครั้ง จึงทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างสม่ำเสมอตามแผนที่วางไว้


ปัจจุบันผลิตภัณฑ์แบรนด์ LINK เป็นผู้นำตลาดที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดในประเทศไทย มีสินค้ามากกว่า 5,000 รายการ ซึ่งรายได้หลักของธุรกิจนี้ ร้อยละ 78% มาจากการขายสายสัญญาณคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร (Cabling) ส่วนสินค้ากลุ่มอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ (Networking) มีรายได้ 6% ของรายได้ทั้งหมด


สำหรับธุรกิจโทรคมนาคม (Telecom) ไตรมาส 3/63 มีรายได้รวมอยู่ที่ 470.87 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 29.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.52 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯ มีรายได้หลักมาจากงานบริการโครงข่ายคิดเป็น 60% ของรายได้รวมทั้งหมด ส่วนรายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่ายคิดเป็น 35% ของรายได้รวมทั้งหมด และรายได้จากธุรกิจให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ คิดเป็น 5% ของรายได้รวมทั้งหมด


สำหรับธุรกิจวิศวกรรม (Engineering) ไตรมาส 3/63 มีรายได้รวมอยู่ที่ 295.64 ล้านบาท โดยรายได้หลักที่รับรู้ในงวดนี้ มาจากงานโครงการที่สำคัญ คือ (1) โครงการ CC4 หรืองานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) (2) โครงการก่อสร้างสายส่งเคเบิลใต้ดินที่จังหวัดเชียงใหม่ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) (3) โครงการก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี สถานีไฟฟ้าปัว และสถานีไฟฟ้าทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ซึ่งได้เริ่มทำงานมาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา (4) โครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี และ (5) โครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยที่อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร

บริษัทคาดผลประกอบการในปี 64 เติบโตเมื่อเทียบกับปี 63 โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ราว 4,271.53 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 676.15 ล้านบาท รับรู้รายได้ในปี 64 มูลค่า 1,555.15ล้านบาท และรับรู้รายได้ในปี 65 มูลค่า 748.55 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้รายได้ระยะยาวอีก 1,291.68 ล้านบาท ในช่วงปี 66-75


นอกจากนี้ยังเตรียมเซ็นสัญญาอีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 3,760 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการเคเบิลใต้น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่า 80 ล้านบาท โครงการเคเบิลใต้น้ำเกาะสมุย มูลค่า 1,230 ล้านบาท โครงการเคเบิลใต้น้ำ เกาะเต่า มูลค่า 1,750 ล้านบาท และโครงการเคเบิลใต้น้ำเกาะสีชัง มูลค่า 700 ล้านบาท


ILINK มีมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ 5.35 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นที่ 4.94 บาท คิดเป็นอัตราส่วน Price/Book Value Ratio ที่ 0.92 เท่า แต่มีอัตราส่วน P/E Ratio ที่ 11.58 เท่า

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องเข้าใกล้แนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.00 และ 6.20 โดยมีแนวรับสำคัญที่ 4.60 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายหุ้นออกไปก่อน


สนใจบทความย้อนหลัง และเรื่องราวที่น่าสนใจ สามารถหาดูได้ในเพจ Trendtalk

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X