ทันหุ้น – AMAใส่เกียร์ลุยงานตามแผนเล็งซื้อเรือไตรมาส 3/64 พร้อมเพิ่มรถบรรทุกบริการลูกค้า ฟากผู้บริหาร “พิศาล รัชกิจประการ” เร่งจบดีล M&Aภายในไตรมาส 2/64 นี้ คาดผลงานปี 64 สดใสฟากโบรกมองงบโตพร้อมลูกค้าหลัก กองรถ PTG แนะ “ซื้อ” เคาะราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 7.25 บาท

นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่าบริษัทยังคงดำเนินการตามแผน และยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยในไตรมาส 1/2564 ไม่มีแผนเพิ่มเรือและรถบรรทุก อีกทั้งจะมีเรือขึ้นอู่เพื่อบำรุงรักษาจำนวน 2 ลำ ตามรอบการบำรุงรักษา คาดจะส่งผลต่อผลประกอบการการขนส่งทางเรือในไตรมาส 1/2564 ไปบ้าง

เล็งซื้อเรือใน Q3

ขณะเดียวกันบริษัทจะพิจารณาซื้อเรือเพิ่ม 1 ลำ ภายในไตรมาส 3/2564เนื่องจากปี 2563 บริษัทขายเรือ 2 ลำ น้ำหนักบรรทุกรวมเกือบ 1 หมื่นเดทเวทตัน หากบริษัทสามารถดำเนินการซื้อเรือได้เร็ว คาดเรือใหม่ที่มาทดแทนเรือที่ขายออกไปจะช่วยสนับสนุนให้ปริมาณการขนส่งให้เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีกองเรือทั้งหมด 10 ลำ กำลังน้ำหนักบรรทุกรวม 9.2 หมื่นเดทเวทตัน

สำหรับการให้บริการขนส่งทางบก บริษัทวางแผนจะเพิ่มรถเซมิเทรเลอร์อีก 20 คัน เป็น 256 คัน จากสิ้นปี 2563 คาดจะมีจำนวนรถครบ 236 คัน อีกทั้งจะเพิ่มรถ 10 ล้อ จำนวน20 คัน เพื่อรองรับการขนส่ง และการขยายฐานลูกค้าหลักอย่าง บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG

นอกจากนี้บริษัทจะพยายามผลักดันการควบรวมกิจการ (M&A) ธุรกิจโลจิสติกส์หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องให้ประสบผลสำเร็จ เพื่อเพิ่มฐานการขนส่งทางบกและการเติบโตปี 2564 ให้แข็งแกร่งมากขึ้น เบื้องต้นบริษัทจะทำดีล M&A ให้ได้ภายในปีนี้ จากเดิมคาดจะเห็นความชัดเจนประมาณกลางไตรมาส 2 หรือปลายไตรมาส 2/2564 หรืออาจจะล่าช้าไปอีกสักระยะ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยังเป็นตัวกดดันในการทำดีลดังกล่าว

ปีนี้ทิศทางสดใส

ขณะที่ในปี 2564 บริษัทคาดทิศทางผลประกอบการจะเติบโตสูงกว่าปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามการขนส่งทางบก และทางเรือที่จะขยายตัวเมื่อเทียบกับปี 2563 เพราะปี 2563 บริษัทได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนึ่งไตรมาส ขณะเดียวกันบริษัทมั่นใจภาพรวมรายได้ในปี2563 จะเติบโตต่อจากปี 2562 ที่ 1.9 พันล้านบาท แต่อาจจะเติบโตเพียงตัวเลขหลักเดียว จากต้นปี 2563 บริษัทตั้งเป้าจะเติบโตสองหลัก และบริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน 21.59% จากการให้บริการขนส่งทางเรือและรถ อนึ่ง 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีรายได้ที่ 1.37 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 131.06 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยทิศทาง บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA ว่า เริ่มต้นออกบทวิเคราะห์ AMA ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 2564 อยู่ที่ 7.25 บาท อิง PE Multiple ที่ 20.22 เท่า ซึ่งเป็นระดับ Avg PE ย้อนหลัง 3 ปี ชื่นชอบ AMA ด้วยเหตุผลหลัก 4 ข้อ 1) ได้ประโยชน์จากอุปสงค์ของน้ำมันพืชที่คาดว่าจะฟื้นตัวในปี 64

ขยายกองรถ

2) เติบโตไปพร้อมกับลูกค้าหลักกองรถ PTG ที่มีแผนขยายสาขาปั๊มน้ำมันต่อเนื่อง 3) ปี 64 ผลประกอบการได้แรงหนุนจากการขยายกองรถ 4) ราคาปัจจุบันซื้อขายกันที่ระดับ PER 15.57เท่า ของประมาณการปี 21 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปี -0.5 S.D. (16 เท่า)ประเมินกำไรสุทธิปี 2564 ของบริษัทจะรายงานที่ระดับ 186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่าในไตรมาส 1 บริษัทจะรายงานผลประกอบการเป็นจุดต่ำสุดของปี จากการเข้าอู่ของเรือ สาลิณา ( 13,020 เมตริกตัน), อลิฌา (13,020 เมตริกตัน) และ เมญ่า (9,942 เมตริกตัน) ซึ่งคิดเป็นราว 40% ของน้ำหนักบรรทุกของกองเรือ AMA