ทันหุ้น-บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ในปี 2563 มีกำไร 3,525.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.6% จากกำไร 2,506.46 ล้านบาทในปี 2562 คิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้จากการขายรวม 20.5% เพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 16.8% ในปีก่อน 

โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บริษัทดำเนินการผลิต ขายและจำหน่าย ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนสโมสร CFC ที่ลดลง และการรับรู้ผลขาดทุนจากการดำเนินงานของ ICUK ที่ลดลงจาก 12.6 ล้านปอนด์ในปี 2562 มาอยู่ที่ 3.7 ล้านปอนด์ในปี 2563 จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นเฉพาะกิจกรรมและช่องทางการขายที่บริษัท ยังเชื่อว่าจะนำมาซึ่งอัตราการขายที่ดีขึ้นในระยะยาว 

ในปี 2563 บริษัทสามารถสร้างรายได้จากการขายทำสถิติสูงสุดใหม่ จำนวน 17,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,298 ล้านบาท หรือ 15.4% จากการเติบโตของรายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บริษัทดำเนินการผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเอง และการเติบโตของรายได้รับจ้างจัดจำหน่ายสินค้าให้บุคคลภายนอกในประเทศ โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากทั้งการเติบโตของยอดส่งออกเครื่องดื่มบำรุงกำลังไปยังตลาดต่างประเทศ และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในประเทศอย่างเครื่องดื่มวิตามินซี วู้ดดี้ ซี+ล็อค ซึ่งเริ่มจำหน่ายครั้งแรกในเดือน มี.ค.2563 

โดยในปี 2563 ตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีเติบโตในอัตรา 28.0% และเครื่องดื่มวิตามินซี วู้ดดี้ ซี+ล้อค มีส่วนแบ่งการตลาดเชิงปริมาณที่ 10% ขบับขึ้นมาเป็นเครื่องดื่มวิตามินซีอันดับ 2 ของตลาดในเดือน ธ.ค.2563 ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นจากสินค้าที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน การเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มวิตามีนซีสะท้อนให้เห็นกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และสร้างโอกาสการขยายฐานธุรกิจในประเทศของบริษัท 

กลุ่มประเทศ CLMV คือตลาดส่งออกเดิมที่เป็นฐานธุรกิจต่างประเทศขนาดใหญ่ และยังมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีรายได้จากการส่งอกขายไปยังกลุ่มประเทศ CLMV เพิ่มขึ้น 974 ล้านบาทหรือ 16.5% ปัจจัยหนุนหลักจากปริมาณคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นของประเทศเมียนมาร์ 

ตลาดอังกฤษ ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทย่อย ICUK มีทิศทางที่ดีขึ้น เป็นผลจากการปรับกลยุทธ์ที่เน้นการเพิ่มอัตราการขายในช่องทางเครือข่ายร้านค้าปลีกขนาดใหญ่และเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ในช่วงการระบาดของโควิด-19ส่งผลให้ปริมาณขายเฉลี่ยต่อเดือนปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี จากค่าเฉลี่ยที่ประมาณ 240,000 กระป๋องต่อเดือนในไตรมาส 1/63 มาอยู่ที่ค่าเฉลี่ยประมาณ 550,000 กระป๋องต่อเดือนในไตรมาส 4/63 สะท้อนฐานความนิยมในแบรนด์คาราบาวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ 

**ปันผลอีก 1.50 บาท

คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลในปี 2563 เท่ากับหุ้นละ 2.40 บาท เป็นจำนวนเงิน 2,400 ล้านบาท โดยได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.90 บาท ดังนั้นจึงจะจ่ายปันผลอีกในอัตราหุ้นละ 1.50 บาทเป็นจำนวนเงิน 1,500 ล้านบาท โดยได้กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD)  ในวันที่ 5 มี.ค.2564 และวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลในวันที่ 8 มี.ค.2564 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พ.ค.2564 

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1